คนเราทุกคนมักจะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางเสมอ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเราอยู่ในโลกแห่งอัตตา ตัวผมเองก็มีอัตตาไม่ต่างกัน มันก็แค่จะน้อยหรือมากแค่นั้น เพราะพวกเรายังไม่ได้หลุดพ้น ผมเป็นคนนึงที่ค่อนข้างเห็นเรื่องนี้ชัด เพราะผมมั่นใจว่าเป็นคนดีคนนึงและหวังดีกับผู้อื่นเสมอ โกรธคนแทบจะไม่เป็น แล้วก็ไม่ยึดติดกับอะไรมากมาย แต่เชื่อเถอะ มันไม่จบ
ยกตัวอย่าง ถ้าเราทำตัวดีเกินไป เช่นไม่กินเหล้า หรือพูดธรรมะ หรือแสดงแนวคิดที่ต่างออกไป ไม่ตรงใจเค้าก็ว่าเราแอ๊บ เฟค หรือไม่หาว่าเรายกตน เหมือนประมาณว่าเราคิดว่าตัวเองดีคนเดียว คนอื่นไม่ดี หรือเค้าคิดว่าเราหลงตัวเองนั้นแหละ จนเค้าไม่อยากยุ่งกับเรา หรือขนาดขัดหูขัดตาเค้า หรือกระทั้งไม่ชอบหน้าเราไปเลยก็มี จากนั้น เราก็จะพยายามให้เค้ายอมรับโดยการทำทุกอย่างตามที่เค้าบอกเช่น กินเหล้า หรือทำตัวให้เทา ๆ เหมือนเค้า หรืออาจจะพยายามพูดคุยกับเค้า แต่เชื่อเถอะมันไม่จบ เพราะพอเราทำแบบนั้นแลัวเค้าก็คิดว่า กูว่าแล้ว มันแอ็บจริงๆ ด้วย ตอนแรกทำมาเป็นพูดดี สุดท้ายแล้วก็ไม่ต่างกับคนอื่น อะไรประมาณนั้น หรือแม้แต่คำพูดต่างๆ ที่พยายามพูดคุยกับเค้า ก็จะถูกคิดว่าไม่ดีตั้งแต่เรายังไม่เริ่มพูด กลายเป็นมุขไม่ฮา พาเพื่อนเครียดไป ซึ่งส่วนนึงอาจเป็นเพราะตัวผมเองไม่รู้วิธีการพูด พูดไม่ดูจังหวะ แต่ที่ผมแน่ใจคือที่พูดออกไปไม่ได้ใส่ความรู้สึกไม่ดีลงไปแน่นอน แต่ก็โดนอยู่ดีเพราะเค้าคิดว่ามันต้องไม่ดีตั้งแต่แรกแล้วไง แต่กับคนที่เค้ายอมรับเข้าใจ ต่อให้พูดจาเฮี้ย แค่ไหน แม่งก็ดีไปหมด สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรู้จักเราดีนอกจากตัวเราเอง และหวังดี รักเรา เข้าใจเรา มากกว่าตัวเราเองและครอบครัวเราหรอก แม้แต่คนที่รักเราเค้าก็ยังมองเราในมุมของเค้าเลย นับประสาอะไรกลับคนที่ไม่รู้จักเราดีพอ เราจะหวังให้เค้าเข้าใจเราได้ไง จงรักตัวเองให้มากอย่าได้หวังความรักจากคนอื่นมากเกินไป