Login
-
 view (596 )     comment (60 )     last update : 7/4/2560 22:53:51
Pete
I Shed My Teas When You Go..

รอฟแห่งริทาเนียคือเจ้าชายผู้สืบบัลลังค์ของริทาเนีย ซึ่งกำลังจะต้องรับตำแหน่งประมุขสูงสุดของรัฐ แต่ ต้องการใช้ช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานหรือมีความสุขก่อนที่จะขึ้นครองบัลลังก์ ซึ่งจะหมดเวลาเที่ยวเล่นอีกต่อไปด้วยการเดินทางไปรอบโลก

 

รอฟเดินทางมาโดยทางเรือแห่งราชนาวีริทาเนีย และเทียบท่าตามจุดต่างๆเพื่อให้เจ้าชายได้ลงไปเที่ยวดูสิ่งที่ต้องการ และทุกเมืองที่ผ่านไปไม่มีอะไรพิสดารหรือพิเศษเกิดขึ้น

 

จนกระทั่ง...เมื่อเดินทางมาถึงเมืองไทยซึ่งเป็นเมืองสุดท้าย แต่แรกคิดว่าจะใช้เวลาเพียงแค่ 7 วันเท่านั้น แต่ด้วยความถูกใจ ชอบพอกับ "เจน" ไกด์สาวชาวไทยทำให้อยากยืดเวลาในเมืองไทยออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ก็ไม่อาจทำได้ และจำต้องจากเมืองไทยไปในที่สุด

 

มูลเหตุที่รู้จักเมืองไทย มาจาก การพูดคุยกับแม่ครัวในวังที่สนิทกัน และเคยเล่าเรื่องเมืองไทยให้ฟังบ่อยๆ จนคิดว่าน่าจะจัดเมืองไทยไว้เป็นอันดับท้ายที่สุดเพื่อจะได้ชื่นชมหรือทำอะไรอย่างที่ต้องการจะทำ รวมทั้งซื้อของฝากด้วย(ด้วยการฟังจากปากแม่ครัว)

 

ที่จริง เจ้าชายเดินทางไปแทบทุกเมืองที่มีคนในวังซึ่งล้วนแล้วแต่มาจากเมืองต่างๆทั่วโลกเล่าให้ฟังว่าเมืองนั้นๆมีอะไรน่าสนใจบ้างและเจ้าชายก็ทำอย่างนั้นทุกเมือง จนกระทั่งเหลือเมืองไทยเป็นเมืองสุดท้าย

 

ที่เมืองไทย...รอฟ-เจ้าชายหนุ่มได้พบกับเจน(เจนนิสา) และประทับใจกันและกันเป็นอย่างมาก โดยที่เจนเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารอฟนั้นเป็นเจ้าชาย เนื่องจากการมาเมืองไทยของรอฟนั้นไม่ได้มาอย่างเป็นทางการ

 

รอฟ แอบหนีเที่ยวกับเจนกระทั่งเลยกำหนดเดินทางกลับประเทศ  และเมื่อองครักษ์ตามหาเจ้าชายไม่พบ จึงจำเป็นต้องรายงานให้ทางสถานทูตที่เมืองไทยและที่ริทาเนียทราบ เรื่องจึงแดงขึ้นมาและทำให้ต้องขอความร่วมมือกับทางตำรวจช่วยตามหาตัวเจ้าชาย

 

ระหว่างที่รอฟออกเที่ยวกับเจนนั้น ก็ไม่เคยบอกให้เจนรู้ว่าตนเองเป็นใคร และมีความสำคัญขนาดไหน  ระหว่างนั้นก็มีเหตุการณ์ต่างๆแทรกขึ้นมาเป็นระยะๆ เป็น การผจญภัย การถูกวัยรุ่นหาเรื่อง การที่ต้องพากันหนีภัยอันตราย จนกระทั่งเมื่อ....รอฟถูกนำตัวส่งกลับสถานทูตและได้รับการอารักขาอย่างดี

 

ทั้งสอง ต่างทำหน้าที่ของตน  ... เจนกำลังอยู่บนรถทัวร์ทำหน้าที่พากษ์เรื่องราวสะเทือนใจบางอย่างของเมืองไทยอยู่พอดี  เธอมองสบตาขึ้นไปที่รถนำขบวนที่ค่อยๆแล่นผ่านไปช้าๆ เธอเห็นรอฟมองมาที่เธอด้วยสายตาอาลัยรัก น้ำตาของเจนหลั่งไหลออกมาพร้อมสายฝนที่ราดรดไปทั่วบริเวณนั้น

 

มันเป็นการอำลาที่สะเทือนใจที่สุดฉากหนึ่งระหว่างคนทั้งสอง  หนึ่งคือเจ้าชายผู้สูงศักดิ์จากยุโรป และอีกหนึ่งคือไกด์สาวจากกรุงเทพฯ

 

นิยายเรื่องนี้จบลงด้วยความรักที่ไม่มีวันตาย แต่ไม่มีวันบรรจบกันได้ในที่สุด

 

ทุกปี เจ้าชายจะส่งดอกไม้มาหาเจน และ มีการ์ดระบุว่า “แด่ เจนนิสา...เธอคือรักเดียวของฉัน...ตลอดไป”

ความคิดเห็น
ผู้แสดงความคิดเห็น

To Khun Mintra:

ขอบคุณมากมายครับ คุณมินตรา ... ผมชื่นใจที่มีคนให้ความเห็นกรณีพล็อตเรื่องตามกระทู้...ผมเก็บพล็อตง่ายนี้เอาไว้ในลิ้นชักหลายปี คงราวๆอายุสัก 13-14 โดยที่ครั้งแรกสุดมันอยู่ในรูปแบบของสมุดบันทึก หลายปีต่อมาพอมีเครื่องคอมพ์ก็งัดเอามาใส่ไว้ในรูปซอฟต์แวร์ แต่ทั้งๆที่เวลาผ่านไปเนิ่นนานก็ไม่เคยเขียนได้สักที จนผมตั้งชื่อตัวเองว่า “มิสเตอร์ รีพีท” (Mr Repeat) เพราะคิดมันซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่นแหละ(แต่ไม่ได้เขียน)

จำได้ว่าอยากจะเขียนเรื่องนี้ก็ตอนที่อ่าน “Prisoner Of Zenda” จบ(ตอน 13-14 ขวบน่ะครับ) ตอนนั้น “อิน”มาก เพราะฉะนั้นทั้งชื่อทั้งสถานที่ต่างๆผมได้อิทธิพลมาจากเรื่องนั้นส่วนใหญ่ (พระเอกชื่อ รูดอฟล์ รัสเซนดิล ผมเอามาแปลงเป็น “เจ้าชายรอฟ” -- ส่วนอาณาจักรลูลิทาเนียผมก็แปลงเป็น “ริทาเนีย” ) และยังจำคำพูดของเจ้าหญิงฟลาเวียที่พูดกับพระเอก(รูดอล์ฟ)ตอนที่รู้ว่าเขาไม่ใช่เจ้าชายตัวจริงเพียงเป็นคนหน้าเหมือนที่มาช่วยกู้สถานการ์ณให้อาณาจักรว่า “ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม(ไมใช่เจ้าชายแต่เป็นสามัญชน) เธอก็จะตามเขาไปไม่ว่าจะต้องเป็นเจ้าหญิงบนบัลลังก์หรือเป็นยาจกที่ไหนก็เถอะ” นั่นหมายความว่าแม้ร่างเธอไม่อาจไปอยู่กับเขาได้ แต่ “หัวใจ” ของเธอยังคงตามเขาไปทุกที่ ... ท่อนนี้แหละทำให้ผมแทบสลบเลย ตอนนั้นอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกจนมีแรงฮึดอยากจะเขียนเรื่องให้มันได้แบบที่อ่าน

(แอบพ้อ...ทำไมมินตราไม่มาอยู่ตอนที่ผมเพิ่งอ่านหนังสือเล่มนั้นจบหมาดๆ จะได้ช่วยกันเขียน....ไม่งั้นมันคงน่าสนุกตื่นเต้นและสมจริงและคงไม่ต้องมีสภาพเป็นพล็อตกระทั่งทุกวันนี้)

ถัดไปเรื่องที่ว่า ผมอ่าน “เพชรพระอุมา”หรือเปล่า....โดนเลยครับ....จะบอกยังไงดี ...ผมอ่านเรื่องนี้ตอนอยู่ไฮสคูลปีแรกๆเลย อ่านตอนช่วงปิดเทอมใหญ่ อ่านแล้วหยุดไม่ได้เลย เคยมองๆว่า “ดาริน” คือผู้หญิงในอุดมคติครับ ผมไม่ได้มองที่การศึกษาหรือความสวยของดาริน แต่มองที่ “ความเป็นผู้หญิงแท้ๆ”ที่มีลักษณะของความเป็นผู้หญิงเต็มตัวโดยไม่เกี่ยวกับชาติตระกูล หรืออะไรทั้งสิ้น...ตรงนี้คือเสน่ห์ที่ชอบมาก และดารินก็มีคุณสมบัติแบบหนึ่งที่คล้ายกับเจ้าหญิงฟลาเวียที่ว่า “เมื่อรักผู้ชายคนหนึ่งแล้ว เธอจะรักเขาจริงๆ .......”(ขอเวลากล้ำกลืนนิดหนึ่ง...ไปต่อไม่ไหวจริงๆ-Pete)….. ดารินรักรพินทร์ไม่ว่าเขาจะเป็นแค่พรานป่า หรือเป็นนักเรียนเยอรมัน(ถ้าพลาดตรงนี้ให้อภัยด้วย) แต่รักเพราะเขาเป็นคนที่ down to earth สุดๆ..

แน่นอนว่าผมชอบหลายฉาก หลายคน จากเรื่องนั้น แอบคิดว่าแงซายหุ่นดีจัง แบบที่คุณพนมเทียนชอบเทียบเสมอๆว่า หุ่นแบบตัววี ซึ่งนั่นเป็นต้นแบบที่ทำให้ผู้ชายไทย(แท้ๆ)หลายคนหันมาฟิตหุ่นกันเผื่อจะได้เป็นแงซายแต่หัวใจเป็นรพินทร์กับเขาบ้าง

สรุปคือได้อ่านครับ ผมอ่านเพชรพระอุมา (ในยุคที่ผมเป็นวัยรุ่น) คู่กับ นิยายหลายเล่มของ เฟดเดอริก ฟอร์ธไซด์ – จากสำนวนแปลของสุวิทย์ ขาวปลอด ในขณะที่ขอบคุณๆพ่อที่นำเอาหนังสือแปลหลายเล่มที่นำมาจากสำนักข่าวสารอเมริกัน จากยูซิส โดยเฉพาะเรื่อง “วรรณกรรมชิ้นเอกของสหรัฐ” ที่มีงานประกวดกันบ่อยๆ(ยุคนั้น) แต่ที่ติดใจมากที่สุดคือการแปลของปรมาจารย์งานแปลอย่าง คุณ แม้นมาศ ชวลิต ซึ่งทำให้ผมรับรู้สำนวนสวยๆกระทั่งทุกวันนี้

จริงๆแล้วผมแอบเทียบเล็กๆว่า รพินทร์นั้นมีส่วนคล้ายกับ “เชน” จากบทประพันธ์ของหลุยส์ เฟลทเชอร์ นะครับ...คุณมินตราว่าอย่างนั้นหรือเปล่า (ผู้ชายร่างสันทัด แต่งชุดดำ ขี่ม้าดำเข้ามาในเมืองเพื่อปราบคนพาล สุดท้ายก็ทำสำเร็จแล้วเขาก็....จากไปท่ามกลางความประทับใจของเด็กชายคนหนึ่งที่เล่าเรื่องนี้จนเป็นหนังสือชื่อ Shane)
ผมชอบอ่านอย่างที่คุณมินว่าจริงๆครับ...

ขอบคุณอย่างแรงนะครับ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 8/4/2560 10:16:17
ผู้แสดงความคิดเห็น

To JiPa

ขอบคุณที่แนะนำเพลงจากพี่ปุ๊( มีเครื่องหมายคำถามมาด้วย – ผมลองเปิดในยูทูปแต่ยังหาไม่เจอครับ) มาให้นะครับ เห็นเนื้อเพลงแล้ว ทำให้ปลื้มและ สะเทือนใจมากครับ ว่าจะขออ่านแค่เที่ยวเดียวพอนะ....อย่าให้มีครั้งที่สองอีกเลย มันสะเทือน...มันโดนจนผมเห็นฉากแบบนี้ในภาพยนตร์หลายเรื่องที่ถล่มอารมณ์จนต้องตั้งสตินิ่งๆ (ฝึกสติมาบ้างแล้ว แต่โมเมนต์แบบนี้ขอจัดเวลาให้สักครู่ เอาให้เต็มเหนี่ยว)

ลำพังเพลงคงจะดึงหัวใจกวัดแกว่งหนักหน่วงอยู่แล้ว ประดุจเอาหัวใจไปวางไว้บนใยแมงมุมเก่าๆ พอเสียงเพลงนี้ผ่านไปโดนเท่านั้นเอง....คงรู้คำตอบนะครับ.... ยิ่งเอาเนื้อเพลงมาวางอีก...จะมีทางให้รอดบ้างไหมละนี่?
คุณจิปาลงคอมเมนต์ในวงเล็บว่า ถ้ามีรักแล้วต้องแยกจากกัน ไม่มีจะดีกว่ามั้ย? ... คำถามนี้แรงจัง ... สะเทือนไปทั้งโลกครับ คาดว่าหลายๆคนคงเห็นตามนั้น (แอบมองไปทางเม้นต์ของคุณ Por ก็มีเอคโค่ตามไปด้วย)

เฮ้อ....ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง กฎธรรมชาติยังแรงเสมอ แม้รู้ว่าเรื่องไตรลักษณ์เป็นของจริง แต่...รักและโรแมนติกเป็นบทพิเศษที่ออปชั่นที่คนเราเลือกมาวางไว้ในช่วงที่อยากคิดแบบนั้น....ตรงนี้ทำให้รักยังเป็นความหวานชื่นที่หล่อเลี้ยงอารมณ์ได้ตลอด...แม้ จะได้สิ่งที่ตัวเองรัก หรือได้ในสิ่งที่ตัวเองไม่รัก ก็ตาม

ขอให้เลือกสุขในทุกข์ได้บ้างก็ยังดี....จากนั้นจะเอาน้ำตาไปเผาไฟก็ไม่ว่า
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 8/4/2560 11:51:21
ผู้แสดงความคิดเห็น

To P'Jipa

หน้ากากแก้วไม่เคยอ่านค่ะ ชอบออกแนวตำนานรักฟาโรห์(เก่ามาก)/โดราเอม่อน/รันเซ่ /อาราเล่ ประมาณนั้นน่ะค่ะ แอบไปเปิดดูกน้ากากแก้วมีในยูทูปด้วย ถ้ามีอารมณ์(แบบเด็กๆขึ้นมาจะไปลองแว่บๆดูน๊า)
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 8/4/2560 12:03:59
ผู้แสดงความคิดเห็น

Plot ไว้อย่างนั้นหลายสิบปีแล้ว ได้แต่พล็อต ไม่เคยเขียนได้สำเร็จสักที ตอนนี้แค่อยากได้เพลงประกอบพล็อต(น้ำเน่า) บ้าง....

Pleaseeeeeeeeeeee
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 7/4/2560 22:57:50
ผู้แสดงความคิดเห็น

My love ของ Westlife ค่ะ (ชอบboyband นี้เป็นการส่วนตัว Lol)


https://youtu.be/ulOb9gIGGd0
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 8/4/2560 9:46:37
ผู้แสดงความคิดเห็น

To P'Jipa

ไม่มีความรักแบบนี้ ดีกว่าไหม??
อืม รักแล้วก็ทุกข์เนอะ ไม่มีก็ดี ค่ะ แต่บางเวลาช่วงเวลาดีๆสั้นๆ เราย้อนมองกลับมาก็แอบมานั่งยิ้มทำให้มีความสุขได้น๊า...ลืมๆ นึกถึงอีกเพลงนึงขึ้นมาทันทีเลยค่ะ


https://youtu.be/628dAnj2XWY
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 8/4/2560 9:53:26
ผู้แสดงความคิดเห็น

To คุณมินตรา

สุดยอดนักอ่านนิยายตัวยงเลย :) แต่ของหนูนี่ชอบแอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นประจำเลยค่ะ ...
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 8/4/2560 9:59:47
ผู้แสดงความคิดเห็น

To Khun Por

ขอบคุณที่ส่ง My Love ของ Westlife มาให้นะครับ ความหมายโดนใจมากและก็เหมาะกับกระทู้ครับ แต่ก็แอบมองข้ามโซนไปที่เม้นต์ที่คุณ Por มุ้งมิ้งกับ JiPa ที่ระบุเพลง “ช่วงที่ดีที่สุด” ของ บอย / ป๊อด ที่โดนจนแอบถอนใจใหญ่

ขอขโมยเพลง “ช่วงที่ดีที่สุด” มาวางในกระทู้นะครับ (แม้จะส่งให้คุณ JiPa ก็ตาม) ทั้งเนื้อเพลง ความหมาย และอารมณ์ทั้งหมดกำลัง uproot หัวใจของใครสักคนให้เข้าใจความหมายของการจากไปได้ดีในระดับ Supreme

ตอนฟัง My Love นั้นชอบนะครับ เนื้อเพลงดีมาก รอยยิ้มของ Westlife นั้นช่วยทำให้คิดว่าพวกเขาร้องเพลงเศร้าๆนั้นได้ด้วย “อารมณ์ที่ทำใจได้” แล้ว จึงมีรอยยิ้ม แต่พอมาฟังเพลง ช่วงที่ดีที่สุด นั้น ไปถึงระดับบรรลุเลยว่าคนเราควรเก็บช่วงที่ดีที่สุด เอาไว้ โดยให้ความเป็นธรรมกับตัวเองมากที่สุดด้วยเช่นกัน

เห็นมีคำถาม (มุ้งมิ้งกับคุณ JiPa) ว่า ไม่มีความรักแบบนี้ ดีกว่าไหม? ....

.... ให้ส่วนผสมของ น้ำตา รอยยิ้ม ความสุข ความคิดถึง หัวใจอ่อนละมุน ความท้อแท้ ความหวัง ความคิดถึง โรแมนติก ความประทับใจ และใครที่มีใจให้เราจริงๆ และส่วนผสมสุดท้าย “ถามใจตัวเอง” ทั้งหมดเอามารวมกัน...แล้วปั้นเป็นสิ่งที่ต้องการครับ....

Enjoy
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 8/4/2560 12:19:11
ผู้แสดงความคิดเห็น

To P'Jipa

หนูขออนุญาตตีมือผู้ชายคนนั้นของพี่จิปาได้ไหมคะ (ขอค่าจ้าง20.-) :)

To Khun Pete

ถ้าคุณPete หน้าเหมือนพี่ Shane Westlife หรือ michael buble
ขออนุญาตกอดสักทีเลยค่ะ อิอิ

To Khun Mintra

ตอนเด็กๆหนูก็ชอบไปเช่าหนังสือ(การ์ตูน)มาอ่านค่ะ เช่าไปเช่ามา ต้องเสียตังค์ไปซื้อมาเก็บสะสมไว้ซะงั้นเพราะอ่านแล้วชอบ หวงมากๆ ทุกวันนี้ก็เก็บไว้อยู่ มีบางเล่มที่เอาไปบริจาคห้องสมุดค่ะ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 8/4/2560 14:14:38
ผู้แสดงความคิดเห็น

คุณมิน...

เวลาหนูชอบนักร้อง ครั้งแรกที่ชอบคือ เนื้อหาบทเพลง - นำ้เสียง ตามด้วยหน้าตา
เวลาเค้าร้องเพลงยิ่งถ้าเป็น live concert หน้าตาของนักร้องแต่ละคนจะดูมีพลังและมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกค่ะ.
จริงๆก็ชอบนักร้องหลายท่านนะคะ
ส่วนสเปคชายในฝัน จริงๆอ่ะ อุบไว้ค่ะ ความลับ อิอิ ;)
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 8/4/2560 16:00:29
ผู้แสดงความคิดเห็น

To Khun Por

ผมคงดูไม่คล้ายทั้งไมเคิล บลูเบ และ เชน เวสต์ไลฟ์

อนิจจา ผมเป็นหนุ่มไทยแบบเอาไปเข้าฉากบางระจันได้มั้ง

กอดสลายหายไปกับสายลมซะงั้น
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 9/4/2560 0:27:35
ผู้แสดงความคิดเห็น

ชอบ Hugh Grant และ Richrd
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 9/4/2560 16:00:35
ผู้แสดงความคิดเห็น

ยังพิมพ์ไม่จบเลย มือไปจิ้มปุ่มok ซะงั้น อีกคนที่ชอบคือ Robert Redford ค่ะ
คุณพีทเข้มขนาดนั้นเลยจริงหรือเปล่า อิอิ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 9/4/2560 16:06:27
ผู้แสดงความคิดเห็น

ไปปล่อยระเบิดทุกกระทู้เลย เจ๊
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 9/4/2560 19:49:22
ผู้แสดงความคิดเห็น

To JiPa

ไปบางระจันได้คือ เอาไปเข็นเกวียนกับวิ่งหลบดาบพม่าครับ

ไม่ได้วิไลปานจะให้ใครมาปลื้ม...เศร้า
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 9/4/2560 22:15:15
ผู้แสดงความคิดเห็น

ตายเลย...แม่ทัพไปกับพ่อทัพ...แล้วยังมี "ทัพพี" - "ทัพพระยา" - "ทัพหลวง" - "ทัพไพร่" ตลอดจน "ทัพรี้พลสกลไกร" รวมทั้ง "ทัพครูเสด" ก็มา

เอ๊า ฮา หุย ฮา ไปทะเลกันดีกว่า
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 9/4/2560 23:23:33
ผู้แสดงความคิดเห็น

To JiPa

ไม่มีทัพพี ตักข้าวกินไม่ได้ กองทัพไทยต้องกินข้าว ไม่ได้กินหมั่นโถ หรือขนมปังจ้า

ทัพพียังใช้เป็นอาวุธพิเศษคู่กับสากกะเบือได้ด้วย เผื่อจวนตัว ทัพบางระจันของเราจะส่ง JiPa ไปตะโกนท้าทายฝ่ายตรงข้ามก่อน จากนั้น ถ้าจวนตัว เราจะร่อนทัพพีไปต้านทัพมะละแหม่งเอาไว้

เอ๊า ทัพเรา ประสานใจกัน...ลุย
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 9/4/2560 23:45:38
ผู้แสดงความคิดเห็น

แม่ทัพ เกาหัวแกรกๆ....

เมื่อไหร่ก็ตามที่ JiPa ไปท้ารัก ทางเราก็จะมอบข้าวสารหลายเกวียน ทองหยอง เพชรนิลจินดา ตลอดจนภูษาอาภรณ์ให้ทางพม่าไป ที่ทำให้ JiPa ไปอยู่กับทางนั้นได้

แม้ทางทัพเรามิอาจกำหนดได้ว่าสิ้นเปลืองไปกับจิปามากมายเพียงใด ตลอดจนค่ากาแฟต่างๆก็ไม่เคยหักหาญน้ำใจคิดเงิน แต่ว่า มันถึงคราว (เคราห์) เอ๊ย คราวฤกษ์งามยามดีจริงๆที่การณ์เป็นไปดังว่า

อย่าลืมเชิญชวนเจ้าบ่าวมาร่ำสุรากับพวกเราทางนี้บ้างล่ะ....มันเป็นธรรมเนียม

Ho Ho Ho (กรุณาลากเสียงแบบ ซานตา ครอส ซะด้วย)
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 10/4/2560 0:08:18
ผู้แสดงความคิดเห็น

เอ๊า งั้นเอาตัวจิปากลับมา ไม่ต้องส่งตัวไปแล้ว เพราะท้ายที่สุดแล้วเราตระหนักดีว่าจิปามีคุณค่ามากมายขนาดไหน เราแค่ลองใจกัน...เราจะไม่ยอมเสียจิปาไปเด็ดขาด

อย่างน้อยเก็บไว้ทางนี้ก็มิมิใครบังอาจมาหยามแผ่นดินเราได้ เจริญพร
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 10/4/2560 0:33:51
ผู้แสดงความคิดเห็น

To khun Pete

ที่จริงจ้างพี่จิปา ยี่สิบ พี่เค้าก้อไปแต่โดยดีแล้วค่ะ :)
พี่จิปา เค้ามีคุณค่าในตัวเอง คือ เค้าเป็นวัตถุโบราณ. ;)
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 10/4/2560 7:34:07
ผู้แสดงความคิดเห็น

Oh Nong Por,

The echo of "antique" hits me hard; I lost my balance right now.......
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 10/4/2560 12:49:00
ผู้แสดงความคิดเห็น

Ohhhh sorryyyyy

I'll take P'Jipa back..
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 10/4/2560 19:00:53
ผู้แสดงความคิดเห็น

To JiPa

คำว่า "คานเพชร"กระเทือนยิ่งกว่า antique อีก

คราวนี้โดนวงใหญ่เลย...เครียด
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 10/4/2560 22:28:12
ผู้แสดงความคิดเห็น

ทุกคนเกาะคานแน่น เพราะกลัวตกไปศพไม่สวยง่ะ

แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 10/4/2560 23:15:28