Login
-
 view (475 )     comment (20 )     last update : 31/5/2560 14:54:23
Pete
หญิง- ชาย บนมุมมองสัมพันธภาพและความรักที่แตกต่างกัน

เรื่องน่าเวียนหัวที่ทำให้ชายหญิงจูนกันไม่ติดนั้นมีหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของ สัมพันธภาพ และความที่มีมุมมองที่ต่างกันราวฟ้ากับเหวก็เลยทำให้ ความสัมพันธ์ไม่เกิดหรือเกิดแล้วไม่ราบรื่น

 

มุมมองของผู้หญิงนั้น ส่วนใหญ่แล้วค่อนข้างเป็นแบบ “เครื่องกรองหลายชั้น” ในขณะที่มุมมองของผู้ชายนั้นจะเป็นแบบ “รวดเร็วเบ็ดเสร็จ” มากกว่า ... และที่พูดแบบนี้ก็แค่เป็น “ค่าเฉลี่ย” เท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้วอาจมีข้อยกเว้นหรือออปชั่นต่างๆที่พิสดารกว่านี้ก็ได้

 

หากเป็นเรื่องของ สัมพันธภาพที่ต้องการให้ก่อเป็นความรักหรือความสัมพันธ์แบบหนุ่มสาวแล้ว เรื่องแบบนี้แตกต่างจากความสัมพันธ์ในเรื่องหน้าที่ การงาน หรือการค้า  ...เราลองมาดูกันว่าหากเป็นเรื่องของสัมพันธภาพที่เกี่ยวกับความรักนั้นหญิงชายจะมองต่างกันอย่างไร

 

ผู้หญิงจะมองไปที่ “การพูดคุยกันรู้เรื่อง” ก่อนเป็นอันดับแรกๆ ถ้าคุยกันไม่สื่อ ก็แน่นอนว่าความสัมพันธ์ขั้นต่อมาย่อมไม่เกิดขึ้น และเมื่อไม่สื่อแล้วก็ไม่อาจก้าวไปสู่การชอบ ตลอดจนความหลงใหลในอนาคต เรียกว่าจบกันแค่ตอนที่ไม่สื่อตอนนั้นเลย

 

ส่วนผู้ชาย...แน่นอนว่าธรรมชาติ(อันโหดร้ายแต่ก็ไม่ลำเอียง) มักจะมอบสิ่งที่เป็นพื้นฐานง่ายๆที่สุดในการเปิดประตูแห่งความสัมพันธ์ทางด้านความรัก และสิ่งนั้นก็คือ “การมองด้วยสายตา” เป็นอันดับต้นๆ   ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้ชายส่วนใหญ่(เน้นส่วนใหญ่)จะมองที่รูปร่าง หน้าตา ของฝ่ายหญิงเป็นหลัก

 

(หมายเหตุ 1 มีข้อยกเว้นอยู่บ้างที่ มีสาวๆบางส่วนที่หลงใหลผู้ชายที่หน้าตา รูปร่าง ฐานะ เป็นอันดับแรกๆ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องใช้สมองในการกรองสิ่งต่างๆเหล่านั้นอีกครั้งว่าเข้ากันได้หรือไม่ เช่น หล่อ รูปร่างดี ฐานะรวย แต่ นิสัยกากมากๆ หรือโง่จัดขนาดทำให้ธุรกิจเจ๊งได้)

 

(หมายเหตุ 2 มีข้อยกเว้นสำหรับชายบางคนเช่นกันที่ อาจจะมองข้ามเรื่องหน้าตา รูปร่างของผู้หญิงตั้งแต่แรก (แต่ก็เป็นส่วนน้อยเช่นกัน) แล้วมองไปที่คุณสมบัติอื่นๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกเขาต้องเรียนจากประสบการณ์ความผิดพลาดในอดีตเพื่อเอามาสอนตัวเองทั้งสิ้น)

 

ในเมื่อธรรมชาติสร้างให้เป็นแบบนั้นแล้ว  ธรรมชาติเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายทำให้คนที่เข้าใจเรื่องนี้ชัดเจนกลายเป็นผู้ที่สานต่อสัมพันธภาพต่อไปได้อย่างเข้าอกเข้าใจมากขึ้น

 

ก็ในเมื่อผู้หญิงมองผู้ชายด้วยสมอง ก่อนที่จะเกิดความชอบ(สร้างสารเอนโดฟินในสมอง)  กระทั่งก้าวไปสู่การสร้างสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น...ทำไมผู้ชายถึงไม่โฟกัสตรงจุดนั้น

 

สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกดีและอยากอยู่ใกล้ผู้ชายมากขึ้นก็คือ  ความเป็นตัวของตัวเองของผู้ชายคนนั้น – ความเป็นคนมีอารมณ์ขัน อยู่ด้วยแล้วมีความสุข – ความมั่นใจ – ความกล้า – ความฉลาด – การสร้างอนาคตที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ และความอบอุ่น เป็นต้น  และผู้หญิงย่อมจะสร้างบททดสอบในเรื่องดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะนั่นคือมาตรการทางธรรมชาติของผู้หญิงที่ต้องการ “ความมั่นใจ” ก่อนที่จะ “ตกลงปลงใจ” กับชายที่เข้ามาสานสัมพันธ์ด้วย

 

ผู้หญิงส่วนใหญ่ ต้องการเห็น “ความกล้า” ของผู้ชาย ที่กล้าในการแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองชัดๆ แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ผู้ชายส่วนใหญ่ คืบหน้าเข้าหาผู้หญิงในรูปแบบของ ความกลัวที่จะทำให้สาวๆหลุดมือไปจึงพยายามทำตัวให้สุภาพ นอบน้อม และขาดความเป็นตัวของตัวเอง(ไม่ใช่การเป็นคนสุภาพนั้นไม่ดี แต่บางคนไม่ได้เกิดมาเป็นแบบนั้นหากแต่ฝืนตัวเองเกินไป ทำให้เหมือนเป็นการหลอกตัวเองเกินไปในการคบหา)  เช่นยอมฝืนตัวเองเพื่อให้ผู้หญิงเห็นใจหรือรัก

 

จุดนี้จะเห็นว่าถ้าเป็นพวก Bad Boy แล้วคนพวกนี้จะ “กล้า”ในการแสดงความเป็นตัวตนออกมาชัดเจน ทำให้ผู้หญิงให้ความสนใจ แบด บอย ไม่ใช่น้อย  เอาเข้าจริงแล้ว แบด บอย นั้นอาจไม่เหมาะสำหรับสัมพันธภาพระยะยาว แต่แบด บอย คือผู้ชายที่แสดงความเป็น “ตัวตน” หรือ “ความมั่นใจ” ออกมาได้ชัดเจนมากกว่า ในขณะที่ผู้ชายที่ไม่เป็นตัวของตัวเองทำไม่ได้..... หากเมื่อใดก็ตามที่ชายที่ไม่ไช่แบดบอยนำเอาความกล้าและความมั่นใจที่ถูกที่ถูกทางออกมาใช้ ก็แน่นอนว่าผู้หญิงย่อมให้ความสนใจทันที ... แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าถึงจุดนั้นได้ไว รวดเร็ว และรู้ทันตัวเอง(หมายถึงผู้ชาย)

 

ถ้าโลกนี้มี ผู้ชายมาตรฐาน ที้ใช้หลักการแบดบอย บางจุดอย่างถูกที่ถูกเวลาถูกโอกาส ผู้ชายคนนั้นจะเป็นคนที่สาวๆอยากคบหาเป็นอันดับต้นๆ...

 

มาถึงตรงนี้ ผู้ชายคงไม่ต้องทำตัวให้หล่อขนาดพี่โดม หรือรายขนาดบิล เกตส์ ตลอดจนฉลาดระดับรับรางวัลโนเบล หรือเป็นซุปเปอร์ฮีโร่แบบกัปตันอเมริกา...ขอให้มีแค่ ความกล้า ความจริงใจ ความมั่นใจ ความเป็นตัวของตัวเอง ความมีอารมณ์ขัน  ความอุตสาหะในการสร้างเนื้อสร้างตัว ตลอดจนแสวงหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ  คนที่รวมๆสิ่งเหล่านั้นไว้ในตัวได้ในปริมาณที่เหมาะสมและแสดงออกในเวลาที่เหมาะสมย่อมจะทำให้ผู้หญิง “เปิดใจ” ยอมรับมากขึ้น

 

จากนั้นหากจะสานสัมพันธ์ขั้นต่อๆไปก็พอจะมีทางขึ้นมาบ้างแล้ว ...

 

มองประเด็นแบบนี้ อาจเห็นว่า แบดบอย อาจจะเข้าท่าบ้างในเรื่องความกล้า...แต่แบดบอย ที่แยกแยะไม่ออกระหว่างความกล้าและความถูกต้องก็จบเห่เช่นเดียวกัน ... แต่ถ้าเป็นแบดบอยตอนหนุ่มๆแล้วตอนกลางคนเป็นคนที่เข้าใจโลกมากขึ้น ถ้าเป็นแบบนี้ ก็แน่นอนว่าเขาเป็นคนที่มีความกล้าที่ผสมผสานกับความคิดความเข้าใจที่ถูกต้องมากขึ้น(หากปรับตัวพัฒนาขึ้นได้)

 

แต่ถ้าเป็นชายที่ ไม่กล้า ไม่มั่นใจมาแต่ไหนแต่ไร ต่อให้อายุมากขึ้นถ้าไม่พัฒนาก็ยังคงเป็นแบบเดิม เข้าตำรา คิดแบบเดิม ทำแบบเดิม ผลลัพธ์มันก็ออกมาเป็นแบบเดิม

 

เมื่อมาถึงตรงนี้คงเห็นแล้วว่า ธรรมชาติสร้างผู้หญิง-ผู้ชายมาเหมาะสมแล้ว...โดยให้ผู้หญิงรู้จักรักผู้ชายด้วยการใช้สมองของผู้หญิงไตร่ตรอง อีกทั้งยังทดสอบซ้ำแล้วซ้ำอีก ในขณะที่ สร้างผู้ชายให้ใช้สายตามองรูปลักษณ์เอาไว้ก่อนเพื่อสืบสานสายพันธุ์...แต่ก็มีผู้ชายอีกจำนวนหนึ่งที่คิดแตกต่างและเข้าใจธรรมชาติของผู้หญิง จึงเข้าหาผู้หญิงด้วย ความกล้า ความเป็นตัวของตัวเอง และความก้าวหน้า(สร้างตัว สร้างอนาคต) และผู้ชายกลุ่มนี้เองที่แม้จะไม่หล่อ ไม่ดาร์ก ทอลล์ แอนด์ แฮนซัม แต่ก็สามารถกำหัวใจสาวๆได้อย่างน่าทึ่ง

 

(Pete@Copyright)  

ความคิดเห็น
ผู้แสดงความคิดเห็น

เห็นด้วยนะ เเต่อยากรู้มุมมองชายมากกว่านี้มีไหมคะ อยากอ่านน
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 31/5/2560 22:31:23
ผู้แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณล่วงหน้าคะ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 31/5/2560 22:31:45
ผู้แสดงความคิดเห็น

คุณ Ople

ขอเวลานิดหนึ่งนะครับ

ขอบคุณที่คอมเม้นต์มากๆ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 31/5/2560 23:42:13
ผู้แสดงความคิดเห็น

Khun Ople

ถามนิดหนึ่งนะครับ...รูปใน profile ยืน ทำ gesture ชี้นิ้วโป้งมือขวาไปทางป้ายภาษาจีนมีสีสันด้วย..อันนั้นหมายถึงอะไรครับ อยากรู้ความหมาย

เป็นเสา totem อะไรหรือเปล่าครับ?
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 31/5/2560 23:46:19
ผู้แสดงความคิดเห็น

สวัสดีครับคุณพีท คุณโอเปิล สบายดีใช่ใหมครับ
แต่ละคนย่อมมีมุมมองที่ต่างกันไม่ว่าจะอย่างไรผู้เลือกจะเป็นคนรับผลนั้น
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 1/6/2560 13:27:14
ผู้แสดงความคิดเห็น

Khun Kom

ขอบคุณครับคุณคม มาคอมเมนต์กันสนุกสนานเช่นเคย ปลื้มครับ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 1/6/2560 16:07:29
ผู้แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆ นะค่ะ ชอบบทความนี้ค่ะ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 2/6/2560 14:33:50
ผู้แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณเช่นกันครับ คุณ Enjoy.
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 2/6/2560 20:32:07
ผู้แสดงความคิดเห็น

อ่านแล้วตรงใจ เลยค่ะ ผญ มักจะใช่สมอง มากกว่า ผช.แหละค่ะ การที่คนเราิ สองคนได้มารู้จักิกันคุยกันถูกคอ มันก่คงเหมือน เราอาจจะเคยทำบุญร่วมกันมาแต่ชาติไหนก่ไม่รู้ ชาตินี้ถึงได้มาเจอกันอีกทั้ง ๆ ที่อย่
กันคนละที่ การที่เรา ได้คุยกัน ทุกวันมันก่ทำให้เรผูกพันธ์กัน อนาคตเราก่ไม่รู้ว่าจะเป็นยังงัย จะเกิดอะไร การที่มีคนคุยด้วยก่เหมือนการได้กัลยาณมิตร เพิ่มขึ้น แต่ถ้าคุยกันรู้เรื่อง ก่ถือว่าโชคดี เป็นของคุณ ถ้าคุยกันไม่ค่อยเข้าใจิ เด่วเดียวมันก่จะห่างกันไปเอง ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ นะค่ะิ คุณพีท...

แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 2/6/2560 23:00:27
ผู้แสดงความคิดเห็น

Khun Mam

ขอบคุณมากครับคุณแหม่ม

ผู้หญิงถูกสร้างมาให้ใช้สมองในเรื่องความรักจริงๆครับ บททดสอบของผู้หญิงจึงมีมากมายหลายบทก่อนที่จะมั่นใจจริงๆจังๆ ส่วนใหญ่ผู้ชายไม่อดทนพอสำหรับบททดสอบเหล่านั้น ทำให้พลาดโอกาสดีๆไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็เห็นใจผู้หญิงที่ต้องใช้มาตรการทดสอบทุกอย่างเพื่อคัดให้ได้สิงที่ต้องการมากที่สุด

และเมื่อผู้หญิงคัดเลือกคนที่ต้องการได้แล้ว ต่อให้คนๆนั้นจะไม่หล่อ ไม่เท่ แต่ผู้หญิงจะเห็นความหล่อ ความเท่ในตัวคนที่เธอเลือกครับ นั่นหมายความว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตามนที่เธอเลือกไปแล้วย่อมดูดีเสมอในสายตาของเธอ ... ตรงนี้สำคัญมาก แต่ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่เข้าใจครับ

ไว้มีเวลาจะมาเขียนเรื่องนี้ละเอียดอีกทีครับ

แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 3/6/2560 0:47:02
ผู้แสดงความคิดเห็น



แต่มีผู้หญิงหลายคนที่นอกจากใช้สมองในบางครั้งแล้ว..ยังใช้สามีเสียเป็นใหญ่ด้วย. 555
สาระหาได้จากด้านบนนะครับ ตรงนี้เน้นฮา
สว้สดีคุณพิท ผมว่าจะนำบทความคุณไปรวมเล่มขาย ยังขาดอีกหลายหน้า
รออ่านอยู่นะครับ อิอิ
คอมเม้นเตอร์อาชีพไปไหนกันหมดแล้ว..
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 3/6/2560 5:21:21
ผู้แสดงความคิดเห็น

Khun Nu

บทความของผมขายออกเหรอครับ...ถ้าขายได้งั้นเราเอาเงินมาซื้ออะไรกินกันดีกว่า...ส่วนเงินทอนค่อยเอาไปเที่ยวฟาร์มจระเข้กัน...ใครรักกัน..แค้นกัน..หรือจะพิสูจน์รักกันค่อยเอาไปวัดใจ(ดวง)กันเหนือบ่อไอ้เคี่ยม..555

ขอบคุณนะครับที่แวะมาทักทายกันที่ "ฟากคะนี้"....ส่วนคอมเมนเตเตอร์ทาง "ฟากคะโน้น" เขาคงติดภารกิจสำคัญน่ะครับ...

แต่เม้นท์นี้ก็มีคุณ แหม่ม และ คุณ โอเปิล แวบมาทักทายครับ....

ขอบคุณทุกๆท่านครับ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 3/6/2560 10:42:28
ผู้แสดงความคิดเห็น

Khun Nu

เอ้อ...ยังมีคุณ เอนจอย และ คุณ คม. ด้วยครับ....ขอบคุณอีกครั้งครับ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 3/6/2560 10:45:34
ผู้แสดงความคิดเห็น

รอคุณพีท มาเขียนบทความดี ๆ ให้อ่านอยู่ค่ะ จะรอติดตามตอนต่อไปค่ะ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 3/6/2560 15:47:50
ผู้แสดงความคิดเห็น

กราบขอโทษอยา่งแรง ที่เสียมารยาทไม่ยอมทักทายสมาชิกที่มานั่งฟังอยุ่ก่อน
คุณแหม่มผู้ใจดีเจ้าของเค้กแสนสวย
คุณจอยที่สวยหวานกับความโสดเหงา
คุณคมจอมยุทธพันหน้า ฤานักปราชญ์เพนจร
และคุณโอเปิ้ลผู้น่ารัก เสียดายผมดันเลือกเชฟโลเลตไปซะก่อน งงล่ะสิ เดี๋ยวก้อชิน
คุณพิท.
หนังสือต่างกับหน้าหมาคุณนุ ตรงที่มันขายได้นี่ล่ะ555
ตั้งชื่อหนังสือว่า.ทฤฎึ สัมพันธภาพ..สร้างเอา หรือรอค้นพบ. ฟังดูน่าซื้อเนอะ
ฟาร์มจรเข้ก้อน่าสนใจครับ
ความรัก ความแค้น ความเหงา ความดี ความดี๊ดี ก้อเคยมาหมดละ ชวนใครไปดีหว่า..
มีคนแอบดูแต่ไม่เปิดเผยเยอะ รู้นะ อยากไปด้วยนะน่ะ. ได้แต่คิดในใจใครจะอ่านออก. ร่วมคิดเห็นคนเขียนจะได้มีกำลังใจ และคลายเศร้า ครับ. แอบปั่นกระแสหวังยอดขาย อิอิ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 4/6/2560 1:41:08
ผู้แสดงความคิดเห็น

หวัดดีค่ะคุณ นุ รอๆๆๆ หนังสือ แล้วว่าแต่เงินที่ได้จะเอาไปทำรัยดีค่ะ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 4/6/2560 7:27:32
ผู้แสดงความคิดเห็น

หวัดดีค่ะคุณ นุ รอๆๆๆ หนังสือ แล้วว่าแต่เงินที่ได้จะเอาไปทำรัยดีค่ะ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 4/6/2560 7:27:38
ผู้แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณคุณนุสำหรับชื่อที่ตั้งให้ข้าน้อยมิอาจรับไว้ เพราะแท้จริงแล้วข้าผู้น้อยแค่เพียงคนบ้าพเนจรมาเท่านั้น เพื่อนที่เงียบหายไปคุณนุคิดถึงเขาหรือครับ หากเขาคิดถึงพวกเราเขาก็กลับมาเองล่ะครับ สุดท้ายขอยืมสำนวนคุณพีทที่เคยเขียนไว้กลับมาอ้างอิงอีกครั้ง(ไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษ)
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 4/6/2560 10:24:26
ผู้แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณคุณคมที่แวะเวียนมาทักทายกันบ่อยๆครับ

วันนี้จะพเนจรไปทางไหนครับ

ไปทางไหนขอให้เจอแต่สิ่งที่ถูกใจนะครับ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 10/6/2560 1:38:28