ในโลกและมุมมองของความรักนั้น ใครๆก็อยากเป็นคนไนซ์ (Nice people) กันทั้งนั้น เพราะคนที่ไนซ์นั้นคือคนที่ดูสมบูรณ์แบบในสายตาของชาวโลก ไม่ว่าทำอะไรก็ดูดีไปหมด และจะว่าไปแล้วคนที่ไนซ์หรือดีมากๆนั้นเป็นคนที่ทุกวงการต่างก็เปิดใจต้อนรับกันทั้งนั้น
เราติดต่อธุรกิจก็อยากพบคนทีไนซ์มากๆ เรียนหนังสือก็อยากพบอาจารย์ที่ไนซ์ ไปทานข้าวที่ภัตตาคารก็อยากได้รับการต้อนรับจากคนทีไนซ์ กระทั่งบางที่ยังคิดเลยว่าถ้ามีความรักก็อยากมีคนรักที่ไนซ์มากๆ
การพบเจอคนที่ไนซ์ในชีวิตไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด ที่จริงเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำไป เพราะเจอคนไนซ์หรือปฏิบัติต่อเราดีเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้หัวใจเป็นสุขเท่านั้น
เพราะอย่างนี้เองจึงทำให้ผู้ชายทั้งโลก(เน้น...ทั้งโลกไม่ว่าไทยหรือฝรั่ง-จีน-ญี่ปุ่น-แอฟริกัน ฯลฯ)ต่างก็อยากเป็นคนที่ไนซ์ที่สุดสำหรับคนที่ตนสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เป็นเป้าหมายในด้านความรัก
แบบนั้นเองที่ทำให้ผู้ชายที่อยากจะพิชิตใจสาวๆมักจะเดินสู่เส้นทางการเป็น ไนซ์กาย (Nice Guy)มากที่สุดเพื่อทำให้หญิงที่ตนรักได้รับการปฏิบัติอย่างดีที่สุดจากเขา แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้ชายโดยทั่วไปคิด และ ปฏิบัติกันอย่างจริงจัง
บรรทัดนี้บอกได้เลยว่า ถ้าผู้หญิงที่อ่านคอลัมน์นี้แล้วอยากจะรู้ว่า “หนึ่งในความคิดของผู้ชาย” คิดอะไรในเรื่องของความรักนั้น คำตอบหนึ่งในหลายๆเรื่องของผู้ชายก็คือ การทำตัวเป็นไนซ์กาย เพื่อให้ผู้หญิงชื่นชม ติดใจ และสานต่อสัมพันธภาพกัน
ผู้ชายคิดแบบนั้นจริงๆ.. และก็ไม่ผิดด้วยที่คิดแบบนั้นกัน เพราะ เรา(ผู้ชาย)ทั้งหลายต่างก็ถูกสอนมาตั้งแต่เด็กๆ(ตอนทีเป็นเด็กชาย)จากทุกสถาบันว่าต้องเป็นคนดี เป็นไนซ์กาย ช่วยเหลือทุกคนหรือทุกชีวิตเท่าที่จะที่ช่วยได้
แต่สิ่งที่ผู้ชาย “ลืมคิดไป” ก็คือ โลกนี้เต็มไปด้วยไนซ์กายอยู่แล้ว เราสามารถพบไนซ์กายได้ในภัตตาคาร ในบริษัทต่างๆที่เราติดต่อด้วย ในบริษัททัวร์ที่เราต้องการให้เขาจัดการเรื่องการท่องเที่ยวให้เรา ในร้านตัดผมที่มีพนักงานดูแลเราราวกับเป็นเจ้าชาย-เจ้าหญิง และอีกหลายๆที่ๆต้องบอกว่าแทบทุกแห่งมีไนซ์กายเต็มไปหมด
แม้แต่ผู้หญิงที่กำลังมองหาความรักก็เช่นกัน เธอย่อมพบไนซ์กายแทบทุกที่ๆติดต่อด้วยโดยที่ไม่ต้องพูดถึงเรื่องสัมพันธภาพด้านความรัก ดังนั้น ผู้หญิงย่อมพบไนซ์กายมากมายอยู่แล้วในชีวิตของเธอ แม้กระทั่งเพื่อร่วมงานที่ไม่ได้คิดเรื่องอยากจะสานสัมพันธ์รักกับเธอก็เป็นไนซ์กายได้ทั้งนั้น นั่นก็เพราะการเป็นไนซ์กายนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ไม่ยากในสังคมที่ต้องมีการเกื้อกูลกัน
หากพูดในเรื่องของสัมพันธภาพด้านความรัก (เน้น ความรัก) แบบเดียวกับที่พวกเราเข้าเว็บ houseoflover นี่ละ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า “ส่วนใหญ่”ต่างก็มองหาสัมพันธภาพด้านความรักกันเป็นหลัก (แม้บางส่วนจะบอกว่ามาแค่หาเพื่อนก็ตาม) ดังนั้น หากมองชัดๆในเรื่องนี้ก็จะเห็นว่า ถ้าผู้ชายเป็นเพียงแค่ไนซ์กายและอยากจะได้ “สัมพันธภาพพิเศษ”จากฝ่ายหญิงนั้น คงเป็นเรื่องที่ “ยาก”ที่จะทำให้ผู้หญิงสนใจได้จนถึงขนาดหลงเสน่ห์ และ อยากขยับสัมพันธภาพในระดับที่สูงขึ้นเพื่อเป็นแฟน เป็นคนรัก
ทำไมเป็นเช่นนั้น...คำตอบนั้นอยู่ในหลายย่อหน้าข้างต้น...หากนึกให้ดีๆจะพบว่า ถ้าทำตัวเป็นไนซ์กาย(ซึ่งเป็นเรื่องดี) เรา(ผู้ชายทั้งหลาย)ก็ยัง “ไม่แตกต่าง”จากใครๆในสังคมที่ล้วนแล้วแต่เป็นไนซ์กายทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้ผู้หญิงพบกับไนซ์กายจนชินแล้ว หากผู้ชายที่อยากจะให้เธอเลือกเขาเป็นคนพิเศษแต่ยังทำตัวเป็นแค่ “ไนซ์กาย” ก็เท่ากับว่ายังไม่มีอะไรที่ “แตกต่าง”จากผู้ชายหลายๆคนในชีวิตที่พบเจอได้ง่ายๆในสังคม
ไนซ์กายไม่ได้ตอบโจทย์ที่จะทำให้ผู้หญิงสนใจพอที่จะรับผู้ชายเป็นแฟน หรือเป็นคนรักก็เพราะเหตุนี้เอง
ไม่แปลกที่เรามักจะพบว่า มีเสียงบ่นจากผู้ชายทั้งหลายที่อยากให้ผู้หญิงสนใจ หรือรัก ว่า “ผมเป็นไนซ์กายสำหรับเธอ ผมทำดีทุกอย่างเพื่อเธอ แต่ ทำไมเธอไม่สนใจผมเลย ไม่แม้แต่จะมองเห็นคุณค่าความเป็นไนซ์กายของผมด้วยซ้ำ”
แบบนี้ชัดเจนอยู่แล้วว่า....การเป็นไนซ์กายของผู้ชายนั้น ถือว่า “ไม่เพียงพอ”ต่อการที่จะ “จุดชนวน”ให้หญิงสักคนมองเห็นความแตกต่างของชายคนนั้นกับสิ่งที่เธอพบเห็นได้ง่ายๆในสังคม...เรื่องมันก็มีอยู่เท่านั้น
ดังนั้น ผู้ชายที่อยากให้ผู้หญิงสนใจขนาดเปิดประตูใจยอมรับให้เป็น “คนพิเศษ”ขึ้นมาได้ก็คงต้อง “ออกแรง” หรือ “เตรียมการ”หลายๆอย่างเพื่อให้เธอ “เปิดใจ” แล้วละ เพราะลำพังการเป็นแค่ไนซ์กายนั้นไม่เพียงพอจริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องพูดกันเล่นๆ เพราะถือว่าเป็นปัญหาระดับโลก แม้แต่ผู้ชายตะวันตกที่คิดว่าน่าจะฉลาด มีเสน่ห์ พูดเก่ง มีอินฟอร์เมชั่นเยอะแยะก็ยังมีปัญหาเรื่องนี้ไม่ต่างจากผู้ชายไทย
ถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น...เรื่องของเรื่องไม่มีอะไรซับซ้อน....นั่นก็เพราะว่าระบบการคัดเลือกชายของผู้หญิงนั้นค่อนข้างแปลก(สำหรับผู้ชาย) และแตกต่างจากผู้ชายมากๆ ...เพราะผู้ชายนั้นสนใจผู้หญิงด้วยรูปลักษณ์เป็นหลัก ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้หญิงบางคนไม่แต่งหน้า(หน้าสด)ก็ดูธรรมดา แต่ พอหล่อนแต่งหน้าทาปากสวยๆ แค่นี้ก็เปลี่ยนโลกสำหรับผู้ชายแล้ว (ไม่พูดถึงรูปร่าง) และผู้หญิงสาวใหญ่ก็รู้จุดอ่อนนี้ของผู้ชายชัดเจน จึงจงใจใช้เวลาแปลงโฉมตัวเองซึ่งก็คุ้มค่ากับการแปลงโฉมเพราะได้รับความสนใจจากผู้ชายอย่างรุนแรงทุกครั้ง
ผู้ชายส่วนใหญ่ มักคิดว่า ถ้าตัวเองสนใจผู้หญิงตรงที่รูปลักษณ์(แต่งหน้าสวย หุ่นดี เสริมอก ทำศัลยกรรม) ก็เลยคิดว่าผู้หญิงก็คงคิดแบบเดียวกัน (แบบผู้ชาย) นั่นก็คือ ต้องชอบคนหล่อ เท่ ดูดี และมีเฟอร์นิเจอร์เยอะๆ....ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าคิดผิดพลาดไปเยอะ(จริงอยู่ มีผู้หญิงส่วนน้อยที่ ชอบผู้ชายทีสรีระ เงินทอง ฯลฯ ในขณะที่ส่วนใหญ่คิดละเอียดลออมากกว่านั้น และมองด้วยสมองของเธอมากกว่า)
ผู้หญิงนั้น จะ “เปิดใจ” กับผู้ชายที่เธอสนใจ หากผู้ชายคนนั้นมีอะไรมากกว่าความเป็นไนซ์กายที่เธอเจอมาจนเบื่อ และทำให้เธอไม่เห็นว่าไนซ์กายนั้นจะประทับใจสักเท่าไหร่ สิ่งที่ต้องต้องการคือ “ความมีเสน่ห์” ที่ผู้ชายคนหนึ่งสามารถแสดงออกให้เธอเห็นได้ชัดๆเสียก่อน เมื่อเห็นเสน่ห์ตรงนั้นแล้ว เธอจึงจะ “เปิดประตูใจ” ของเธอเพื่อยอมรับชายคนนั้นมากขึ้น
ถ้าประตูใจของผู้หญิงยังไม่เปิด ความสัมพันธ์ก็ไม่คืบหน้า อย่างเก่งก็เป็นแค่ไนซ์กายที่คุยกันไม่นานก็เซ็งเพราะไนซ์กายไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นเลย
ผู้ชายที่เข้าใจเรื่องนี้ จะเปิดประตูใจของผู้หญิงที่ตนเองคิดว่าอยากจะสานสัมพันธ์ต่อ ด้วยการ สร้างความแตกต่างจากไนซ์กายทั้งหลาย โดยเติม อารมณ์ขัน ความเชื่อมั่น บวกกับศักยภาพของความเป็นชายที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง ออกมากอย่างเหมาะสม
หากทำได้แบบนั้น ประตูใจของผู้หญิงจะเปิดให้ชายคนนั้นเดินเข้าไป หากเขามีความเชื่อมั่นใจตัวเองมากพอ และยอมรับกับบททดสอบที่ผู้หญิงจะทดสอบอยู่บ่อยๆ(มันเป็นธรรมชาติของผู้หญิงทุกคน)ได้ เขาก็จะได้ใจของเธอในที่สุด
ผู้ชายที่รู้เคล็ดลับและวิธีการเข้าถึงประตูใจของผู้หญิงไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะคนหน้าตาหล่อ การศึกษาดี หรือชาติตระกูลสูงส่ง เพราะเอาเข้าจริงๆแล้ว ผู้ชายที่คุณสมบัติเลอเลิศเหลjานั้นถ้าไม่รู้วิธีการสุดท้ายก็ออกมานั่งตบยุงโดยผู้หญิงไม่สน ต่อมาก็จะบ่นว่า “ผมเป็นไนซ์กายสุดๆ เป็นสุภาพบุรุษสุดชีวิต ผมหล่อซะขนาดนั้น เธอยังไม่สนใจผมเลย”
ในขณะที่อาจจะมีผู้ชายที่หน้าตากลางๆ แต่มีเสน่ห์เหลือใจ มีคารมดี สร้างอารมณ์ขันที่เหมาะสม และทำให้ผู้หญิงรู้สึกอยากจะคุย อยากใกล้ชิดคนนั้นบ่อยๆ ...นั่นละแสดงว่าเขารู้เคล็ดลับดังกล่าวแล้ว....
บอกตามตรงว่า การรู้เคล็ดลับตรงนี้ไม่เพียงนำมาใช้กับการสร้างสัมพันธภาพกับหญิงที่เขาต้องการสานสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังนำไปปรับใช้กับวงการอื่นๆได้ด้วย ขึ้นอยู่กับการปรับปรุงปัจจัยเด่นๆที่เขารู้มาว่าจะเอาไปพัฒนากันระดับไหน
และทั้งหมดนี้คือมุมมองของผู้ชายในแง่การทำตัวเป็น ไนซ์กาย เท่านั้นจริงๆแล้วยังมีมุมมองของผู้ชายอีกหลายมุมที่น่าสนใจเอามาวิเคราะห์กัน....
วันนี้คงประมาณนี้ก่อนนะครับ
Pete@Copyright