Login
-
 view (243 )     comment (4 )     last update : 11/6/2560 19:55:52
ppk
เมื่อเจ๋ง..อยากมีแฟน (ต่อจากตอนแรก)

วันอาทิตย์มาถึง

 

หนึ่ง:   หวัดดี ไอ้เจ๋ง  เป็นไงบ้าง ได้ข่าวว่าไม่สบาย แล้ววันนี้ที่นัดกันไว้จะไปไหวมั้ยวะ

 

เจ๋ง: เออ หวัดดีไอ้หนึ่ง วันนี้สงสัยไปไม่ไหวหว่ะ ไม่สบายมา 2-3 วันแล้ว หาหมอกินยาแล้ว  แต่แรงยังไม่มาเลย วันนี้ไม่อยากไปไหน พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานอีก

 

หนึ่ง: โห แค่ให้การบ้านแค่นี้ ถึงกับไม่สบายเลยหรอวะ

 

เจ๋ง: มันหลายเรื่องหว่ะ ตั้งแต่วันก่อนแล้ว กูขับรถไปชนรถตู้ โซเฟอร์รถตู้ก็จะเอาเรื่องให้กูชดใช้ แต่กูไม่ยอม

 

หนึ่ง: ยังไงวะ  เล่าให้ละเอียดหน่อย มันยังไง

 

เจ๋ง: คืองี้ วันก่อน กูกำลังจะขับรถไปทำงานตอนเช้า  กูวิ่งคู่ขนานผ่านหน้าโรงกษาปณ์   ตรงนั้นมันมีเลนซ์ขวาสุดสำหรับคนขับขึ้นโทลเวย์  แต่กูอยู่เลนซ์ที่ 2  กูไม่ต้องการขึ้น  ตอนนั้นรถมันเยอะ ฝนก็ตก รถขับต่อกันไปเรื่อย ๆ ตำรวจจราจรก็มาโบกรถอยู่ตรงนั้น  ส่วนรถตู้มันวิ่งเลนซ์ขวาสุดที่จะขึ้นโทลเวย์  จู่ ๆ มันก็มาแทรกหน้ารถกู  รถตู้มันไม่ยอมต่อแถว พวกรถตู้ชอบมาแทรกแบบนี้ประจำ กูก็เบรคไม่ทัน ก็เลยชนด้านข้างรถตู้เลย

 

หนึ่ง: แล้วมีใครเป็นอะไรหรือเปล่าวะ

 

เจ๋ง: มีกูนี่แหระที่เป็น  พอชนกัน โซเฟอร์รถตู้รีบลงมาจะมาหาเรื่องกูเลย  กูก็ไม่ยอม รถทุกคันเค้าต่อแถวกันมา ไอ้รถตู้มันเห็นแก่ตัวมาแทรกแล้วยังมีหน้ามาหาเรื่องกูอีก ดีที่ตำรวจจราจรอยู่ตรงนั้น  ตอนลงไปดูรถว่าพังแค่ไหนก็เลยโดนฝน  ก็เลยเรียกประกันมาเคลียร์ ส่วนตำรวจจราจรก็โบกรถให้เบี่ยงไปทางอื่น  กว่าประกันจะมา และเคลียร์เสร็จ กูก็ไปทำงานสายเลย   หัวหน้ากูหัวเสียใส่กูใหญ่เลย  งานที่ไซต์ก็เลยล่าช้าไปหมดเลย ส่งมอบงานไม่ทันอีก  กูงี้โครตเครียดเลย  ยิ่งคิดยิ่งเครียด

 

หนึ่ง: ดีนะ เรื่องการบ้านที่กูให้มึงไม่มีส่วนเกี่ยวกับเรื่องที่มึงไม่สบาย

 

เจ๋ง: เกี่ยวซิวะ  การบ้านมึงทำให้กูนอนไม่ค่อยหลับเลย เพิ่มความเครียดให้กู ถึงไม่สบายอยู่นี่ไง

 

หนึ่ง: เออ! เอาเป็นว่ากูขอโทษแล้วกัน  ไม่คิดว่าจะทำให้มึงถึงกับนอนไม่หลับ

 

เจ๋ง: กูสงสัยหวะ ว่าทำไมมึงต้องให้กูคิดข้อดี ข้อเสียของตัวกูอ่ะ

 

หนึ่ง: ที่กูให้มึงคิดถึงข้อดี ข้อเสียของมึงเนี่ย เผื่อมึงจะจีบใคร มึงจะได้บอกคนที่มึงจะจีบก่อนไงว่ามึงดียังไง ไม่ดียังไง

 

เจ๋ง: อะไรของมึงไอ้หนึ่ง  คนจะจีบกันเป็นแฟน มีใครที่ไหนวะที่เค้าจะบอกส่วนไม่ดีให้กับคนที่จีบฟัง เดี๋ยวก็จีบไม่ติดกันพอดี

 

หนึ่ง: ไอ้เจ๋ง  คนส่วนใหญ่ก็เป็นแบบที่มึงคิดนี่แหนะ  ไม่ยอมบอกข้อดี ข้อเสียของตัวเองก่อนที่จะตกลงเป็นแฟนกัน เพราะกลัวดูไม่ดี กลัวเสียฟอร์ม กลัวเสียหน้า กลัวเสียใจ และพอคบกันเป็นแฟนกันถึงค่อย ๆ เปิดเผยตัวตนออกมา  เริ่มเห็นสิ่งไม่ดีฝ่ายตรงข้าม แล้วก็ทนกันไม่ได้ รับกันไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องเลิกกันไปอย่างเจ็บปวด จากที่เคยรักกันชอบกัน ก็กลายมาเป็นโกรธกัน เกลียดกัน บางคู่ถึงกับเป็นศัตรูกันไปเลย ต่างฝ่ายก็มีแผลในใจกัน พอจะอยากมีแฟนใหม่ ก็ค่อยมาตั้งเงื่อนไขว่าคนใหม่ต้องไม่เป็นแบบโน้น ต้องไม่เป็นแบบนี้ แต่มันก็สายไปตั้งแต่คนแรกแล้วหละ

 

เจ๋ง: แล้วถ้าบอกข้อดีข้อเสียไปเลย แล้วเมื่อไรจะได้มีแฟนวะ

 

หนึ่ง: มึงลองคิดอีกมุมนะ  สมมติว่าต่างฝ่าย ต่างบอกข้อดี ข้อเสียให้กันฟังก่อน แล้วถ้ายอมรับกันได้ก็คบกันเป็นแฟนกันไป จะวาดอนาคตกันยังไงก็น่าจะเป็นไปในแนวทางเดียวกัน แต่ถ้ามีใครพอฟังข้อดีข้อเสียแล้วรับกันไม่ได้ ก็ไม่ต้องคบกันเป็นแฟน จะคบกันเป็นเพื่อน หรือคบกันแค่คนรู้จักก็แล้วแต่ เพราะถ้าฝืนคบกัน สุดท้ายก็ต้องเจ็บ ต้องฝืนทน แล้วก็ต้องลงเอยด้วยการเลิกกัน เสียทั้งความรู้สึก เสียทั้งเวลา

 

เจ๋ง: มันก็จริงอย่างที่มึงว่า แต่จะมีใครที่กล้าทำแบบนี้วะ

 

หนึ่ง: การบอกข้อดี ข้อเสียของตัวเองให้คนที่เราจะคบกันเป็นแฟนฟังก่อน กูว่าเป็นการแสดงความตั้งใจและจริงใจต่อกันนะ  มึงลองคิดดูนะ คนเราต่างพ่อต่างแม่กัน ต่างครอบครัวกัน พื้นฐานหลาย ๆ ด้านไม่เหมือนกัน จู่ ๆ จะมาคบกันและจะอยู่ด้วยกันอย่างราบรื่น มันยากมากนะ ตัวอย่างก็มีให้เห็นตามข่าวเยอะแยะ  อย่างพวกข่าวดาราอย่างเนี้ย บางคู่คบกัน สวีทกัน รักกันมาก ไปไหนมาไหน เป็นข่าวสวีทกันตลอดจนถึงขั้นจะแต่งงานกัน  พอจะแต่งงาน ก็จัดงานใหญ่โตหรูหราอลังการ เชิญผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ เชิญเพื่อนฝูงที่รู้จักรักใคร่ ให้มาเป็นสักขีพยาน  พอแต่งงานกันได้ซักพัก ต่างฝ่ายก็เผยนิสัยตัวตนออกมา แรก ๆ ก็ทำเป็นทนได้ แต่ต่อ ๆ ไปเริ่มอึดอัด เริ่มรับกันไม่ได้ เริ่มหาเหตุผลต่าง ๆ นานา สุดท้ายก็ต้องลงเอยด้วยการเลิกกัน เสียความรู้สึกทั้งคู่  มีบาดแผลในใจทั้งคู่ ที่แน่ ๆ ต้องแอบเลิกกันแบบเงียบ ๆ ต้องแยกทางกันอย่างเงียบ ๆ  ต้องหลบนักข่าว ต้องหนีไปต่างประเทศ รอให้เรื่องเงียบหรือรอให้ข่าวอื่นมากลบข่าวตัวเอง หรือจนกว่าจะหาคำตอบที่ฟังแล้วดูดีให้นักข่าวได้ถึงค่อยกลับมา  

 

เจ๋ง: โห! มึงเล่ามาซะกูกลัวที่จะมีแฟนเลย

 

หนึ่ง: กูก็แค่เห็นตัวอย่างมาหลายคู่  หลาย ๆ คู่ ไม่ได้จัดงานใหญ่โต เพราะไม่มีเงินทอง อยู่กันอย่างพอมีพอกิน ช่วยกันทำมาหากิน ช่วยกันสร้างครอบครัว เข้าใจซึ่งกันและกัน ประคองความรักกันยาวนานจนแก่เฒ่า  และอีกหลาย ๆ คู่แม้มีเงินทองมากมาย แต่ก็ไม่สามารถประคองรักกันได้ยาวนาน ต้องเลิกกันไป  ไอ้เจ๋ง การยอมรับกันมันต้องมาก่อน  เมื่อยอมรับกันได้แล้วถึงค่อยคบกันแต่งงานกัน   หลาย ๆ คู่ที่ต้องเลิกกัน เพราะตัดสินใจคบกันก่อนหวังว่าจะมายอมรับกันทีหลัง  มันผิดวิธีนะเว้ย

 

เจ๋ง: มันก็ใช่ แต่ไม่มีใครที่จะบอกข้อไม่ดีของตัวเองให้คนที่เราอยากจะคบเป็นแฟนฟังก่อนหรอก

 

หนึ่ง: ไอ้เจ๋ง กูจะอธิบายเพิ่มให้มึงฟัง  ข้อดีข้อเสียของแต่ละคนเนี่ย บางคนฟังแล้วก็ยอมรับได้  บางคนฟังแล้วรับไม่ได้ก็มี บางข้อบางคนเห็นเป็นข้อดีก็มี บางคนเห็นเป็นข้อเสียก็มี

 

เจ๋ง: ยังไงวะ   ฟังแล้วงง มึงอธิบายมาหน่อยซิ

 

หนึ่ง: แล้วยังไม่อีกนะ ข้อดีข้อเสียบางข้อเราเปลี่ยนแปลงได้  บางข้อเราเปลี่ยนแปลงไม่ได้

 

เจ๋ง: เอ้า! ยิ่งมึงพูด กูยิ่งงงหว่ะ

 

หนึ่ง: กูยกตัวอย่างแล้วกัน   อย่างบางคนชอบตำรวจ อยากมีแฟนเป็นตำรวจ  แต่บางคนไม่ชอบตำรวจ หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ขอมีแฟนเป็นตำรวจ   คนที่เป็นตำรวจก็มีทั้งคนที่ชอบ และมีทั้งคนไม่ชอบ คนที่เป็นตำรวจจะให้ไปเป็นทหาร หรือเป็นหมอก็ไม่ได้ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ บางคนเห็นว่าตำรวจเป็นข้อดี บางคนเห็นว่าการเป็นตำรวจเป็นข้อเสีย ไม่ขอมีแฟนเป็นตำรวจ  แบบเนี้ย

 

เจ๋ง: แล้วข้อดีข้อเสียที่เปลี่ยนแปลงได้ มีอะไรบ้างวะ

 

หนึ่ง: อย่างเช่น สมมติมึงเป็นคนสูบบุหรี่   ผู้หญิงบางคนรับได้ที่แฟนสูบบุหรี  บางคนรับไม่ได้  แต่คนที่สูบบุหรี่ก็สามารถเลิกสูบได้นี่ เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติให้เป็นคนไม่สูบบุหรี่ได้   กูอธิบายมาถึงตรงนี้แล้ว มึงเข้าใจหรือยังว่าทำไมกูถึงให้มึงคิดถึงข้อดี ข้อเสียของตัวมึง

 

เจ๋ง: ก็พอจะเข้าใจนะ

 

หนึ่ง: แล้วสรุป ข้อดี ข้อเสียของมึง มึงคิดได้มากแค่ไหนวะ

 

เจ๋ง: เอ่อ! ก็คิดได้ไม่เท่าไหร่หรอก ก็กูไม่สบายอยู่ หัวมันตื้อ แถมมีเรื่องให้เครียดหลายเรื่อง รถก็เข้าอู่ซ่อม เลยคิดอะไรไม่ค่อยออก  แต่กูฟังมึงแล้ว กูก็เห็นด้วยกับมึงเหมือนกันนะที่จะบอกข้อดี ข้อเสียให้กับคนที่จะจีบเป็นแฟนฟังก่อน  ถ้าเค้ารับกูได้ กูก็อยากให้เค้าบอกกูเหมือนกันว่าเค้าเป็นคนยังไง แบบไหน  ถ้าโอเคก็จะได้คบกันยาวนาน ไม่เสียเวลา

 

หนึ่ง: คุยกันนานเลยวันนี้  กูว่ากูกลับดีกว่า  มึงต้องพักผ่อนให้มาก ๆ นะ พรุ่งนี้จะได้มีแรงไปทำงาน    อ้อ!  กูมีอะไรอย่างนึงจะให้มึงเป็นการขอโทษที่ให้การบ้านมึงจนทำให้มึงเครียดจนนอนไม่หลับ

 

เจ๋ง: อะไรวะ

 

หนึ่ง: เอ้า! นี่  line id น้องคนที่มึงเจอที่ร้านรองเท้ามือสองไง

 

เจ๋ง: เฮ้ย! เฮ้ย! ยังไง มึงได้มายังไงวะ มึงรู้จักน้องคนนั้นหรอ มึงบอกกูมาเลยโว้ย

 

หนึ่ง: โห! หายป่วยเลยหรอวะ มีแรงขึ้นมาเชียว  เอาเป็นว่ามึงอยากได้หรือเปล่าเนี่ย   ถ้าอยากได้ก็เอาไป แล้วเดี๋ยวกูค่อยเล่ารายละเอียดให้มึงฟังวันหลัง   กูไปแระ จะรีบไปทำธุระต่อ  บาย

 

เจ๋ง: เฮ้ย!   ไอ้หนึ่ง เดี๋ยวสิ......   ดูสิ ปล่อยให้กูสงสัยอีกแระ   แต่ไม่เป็นไร  ไปแอดไลน์น้องคนสวยดีกว่า .....อิอิ

ความคิดเห็น
ผู้แสดงความคิดเห็น

สาธุ หลวงพ่อองค์ไหนก็ได้ช่วยลูกช้างด้วย
อย่าเกี่ยงกันเลย
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 12/6/2560 19:17:52
ผู้แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณอีกครั้ง ที่มีเรื่องมาให้อ่าน เนื้อหาโดนใจคะ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 12/6/2560 23:23:16
ผู้แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับคำติชม ของทุกท่านครับ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 13/6/2560 8:51:54