Nice Guy ... ถือเป็นคำหรู ดูดี และเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทั้งหลายก็อยากให้ผู้ชายในชีวิตเป็นไนซ์กายที่ปฏิบัติต่อเธอดีราวกับเป็นเจ้าหญิงหรือคนพิเศษตลอดกาล นั่นเป็นคำพูดที่ดูเข้าท่ามาก ผู้หญิงส่วนใหญ่จะพูดแบบนั้น
แต่เรื่องน่าแปลกก็คือ มีผู้หญิงไม่น้อยที่ “ทำตรงกันข้าม” นั่นคือ พูดว่าอยากคบกับไนซ์กายอยากได้การปฏิบัติที่ดีแบบสุดไนซ์ แต่ เวลา “ทำ” นั้นกลับให้ความสนใจกับ ผู้ชายที่ “จริงใจ” และ “มีความมั่นใจ”มากกว่า และนั่นทำให้ไนซ์กายทั้งหลายหลุดสกอร์ไปแทบจะในทันที
ทำไมเป็นเช่นนั้น....คำตอบง่ายๆก็คือ ไนซ์กายก็คือไนซ์กายตลอดเวลา มาฟอร์แมทเดียวกันทุกคน กี่คนที่เข้ามามีทีท่าสนใจผู้หญิงก็ทักทายแทบเป็นไดอะลอกซ์เดิมราวกับนัดกันมา จากนั้นก็ตั้งอกตั้งใจเอาใจสาวๆกันแบบสุดเดช ตามใจทุกอย่างที่สาวๆต้องการ ฯลฯ เรื่องทั้งหมดนั้นจริงๆแล้วดูดีมาก ใครๆก็อยากมีไนซ์กายไว้ดูแล
แต่....สิ่งที่ค้านกับธรรมชาติลึกๆในจิตใจผู้หญิงก็คือ สิ่งที่ไนซ์กายตามใจทุกอย่างขนาดนั้นทำให้ผู้หญิงมองว่าไนซ์กายไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง แทนที่จะเป็นคนออกไอเดียว่าควรจะไปกินที่ไหน หรือออร์เดอร์อะไร กลับให้ผู้หญิงจัดการทั้งหมด(อ้างว่าตามใจ แต่จริงๆแล้วแชร์ไอเดีย โต้แย้งกันได้ แต่ไม่ทำ เพราะกลัวว่าแย้งไปแล้วเธอจะไม่สนใจ) รวมทั้งอาจจะมองว่าไนซ์กายนั้น fake เกินไปเพราะมัวแต่จะเอาใจผู้หญิงจนไม่แสดงศักยภาพของตนเองออกมา
ตรงนี้ทำให้ไนซ์กายขาดความเป็นตัวของตัวเองไป(แม้จริงๆแล้วไนซ์กายจะเป็นคนบริหารงานเก่ง บริหารบริษัทได้รุ่ง แต่ในเวทีของความรักเขากลับหมดพลังความเป็นผู้นำเสียอย่างนั้น) และทำให้ดูเหมือน “ไม่จริงใจ” ไปโดยปริยาย (ต้องการอีกอย่างแต่ไม่พูด...เอาแต่ตามใจผู้หญิง)
สิ่งนี้ทำให้ไนซ์กายขาดความสามารถในการสร้างแรงดึงดูดใจไปทันที และส่งผลให้ไม่สามารถพาตัวเองไปสู่ขั้นตอนของการสร้าง “แรงดึงดูดใจ” ได้...ทำให้ถูกเหมารวมกับไนซ์กายรายอื่นๆที่ดูเป็นคนไม่มีความเป็นผู้นำ ไม่เด็ดขาด และไม่ใช่จ่าฝูงที่ทำให้ผู้หญิงอยากจะฝากอนาคตไว้ด้วยได้ (แม้จะรวยล้นฟ้าแต่ขาดภาวะผู้นำเด่นชัดก็ทำให้ผู้หญิงหมดอารมณ์ตั้งแต่แรกได้)
และโดยส่วนตัวของไนซ์กายทั้งหลายนั้น ลึกๆแล้วพวกเขาต้องการให้ผู้หญิงสนใจ และเลือกพวกเขาเป็นคู่ใจของผู้หญิงแต่ด้วยความที่เขาต้องการเอาใจพวกเธอ จนลืมความเป็นตัวของตัวเอง อาการแบบนี้ผู้หญิงสัมผัสได้ง่ายๆ และทำให้พวกเธอเห็นว่าไนซ์กายกี่รายๆที่เข้ามาจีบก็ลงท้ายแบบนั้นทั้งหมด บรรยากาศจึง “จืดชืด”เหมือนกินข้าวเปล่าทุกมื้อที่คุยกับไนซ์กาย
Bad Boy…ผู้ชายรสเผ็ดที่สุดในโลกก็คือแบดบอย เพราะแบดบอยเป็นพวกยอมหักไม่ยอมงอ มีความเป็นตัวของตัวเองสูงสุด สัญชาติญาณของความเป็นชายแรงกล้า ระดับที่ทำให้ผู้หญิงสัมผัสความกล้าของพวกเขาได้ตั้งแต่ไกลๆ อีกทั้งลุคส์ลักษณะท่าทางของแบดบอยนั้นส่วนใหญ่จะเป็นพวกชอบการต่อสู้ การแข่งขันอยู่แล้วโดยธรรมชาติ จึงไม่แปลกที่จะเห็นลักษณะของแบดบอยค่อนข้างฉายแววความเป็นชายชัดเจน เช่น เล่นกล้าม หุ่นแบบนักกีฬา หรือมีรอยสักเป็นต้น
แบดบอยเป็นพวกที่มีความมั่นใจตัวเองสูง เวลาจีบสาวจึงไม่กลัวว่าสาวจะไม่รัก แนวการพูดจึงออกมาแบบตรงๆ หรือถ้ามีลูกเล่นก็สนุกสนานเพราะไม่ประหม่าหรือตื่นเต้นง่ายๆ เมื่อคุมอารมณ์อยู่ก็ไม่ประหม่า ทำให้สามารถปล่อยมุขฮา หรือสนุกสนานได้ตลอดเวลา บางคราวก็พูดตรงจนรับไม่ได้ ลักษณะแบบนี้เองที่ถูกตีความว่ามีความเป็นชายสูง และมีเสน่ห์เพราะไม่จำเป็นต้องเฟคในการเอาอกเอาใจสาวจนเกินเหตุ
แม้จะพูดขวางหูขวางตาไปบ้าง แต่แง่ของอารมณ์ขัน อารมณ์สนุก นั้นทำได้สร้างแรงดึงดูดใจสาวๆได้ท่วมท้นโดยธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสาวๆที่เคยโดนไนซ์กายจีบจนแทบอาเจียนกับสำนวนของไนซ์กาย ที่มาฟอร์มเดิมๆทุกคน อีกทั้งไนซ์กายยังไม่กล้าหยอดมุขฮาหรือคุยสนุกเสียอีกเพราะกลัวจะขัดใจหญิง แต่เมื่อมาเจอแบดบอยเข้าไปจึงทำให้เหมือนชีวิตมีรสชาติร้อนแรงทันที
ไม่แปลกที่แบดบอยสามารถสร้าง “ความแตกต่าง”ในใจสาวๆได้อย่างได้ผลเร็วมาก ถ้าเปรียบเทียบว่าไนซ์กายคือข้าวเปล่า พวกแบด บอยก็คือแกงเผ็ด หรือยำแซ่บ ที่ทำให้อาหารมื้อนั้นอร่อยขึ้นมาผิดหูผิดตา เรียกว่ากินแล้วตาสว่างในทันทีก็ได้
แต่...ความแรงของแบดบอยซึ่งเป็นพวกที่ยอมหักไม่ยอมงอนั้น ก็อาจทำให้ชีวิตสาวๆที่คบหากันไปสักระยะเริ่มจะไม่ค่อยสนุกเพราะความแรงของแบดบอยนั้นบางคราวก็ทำให้เข้ากับผู้ใหญ่ไม่ได้ บางคราวก็ทำให้มีสาวๆเข้ามาในชีวิตเพิ่มมากขึ้น(คบซ้อน และ บางทีก็ไม่ได้คบซ้อนแต่มาเพราะหลงเสน่ห์ความแรงของแบดบอย)ทำให้ชีวิตมีคู่แข่งมากเกินไป รวมทั้งตัวแบด บอย เองก็อาจจะเบื่ออะไรง่ายๆ ทำให้ชีวิตคู่มักจะไปกันได้ไม่ตลอดรอดฝั่งเสียเป็นส่วนใหญ่
ที่สำคัญ แบดบอย จำนวนมากไม่อาจเปลี่ยนวิถีชีวิตของตนเองได้ เพราะคิดว่าเป็นแบดบอยนั้นดีอยู่แล้วเพราะเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองที่เกินร้อยตลอดเวลา บ่อยครั้งทำให้ต้องเลือกที่จะอยู่คนเดียว เมื่อมีโอกาสเหมาะๆก็ออกฤทธิ์แบดบอยกันอีก
แบดบอยถือเป็นเสน่ห์ร้อนแรงที่ “คุมยาก” และทำให้ผู้หญิงเหนื่อยใจเสมอ ผู้หญิงส่วนใหญ่คิดว่าสามารถจะเปลี่ยนแปลงแบดบอยให้กลายเป็นคนโรแมนติก หรือเปลี่ยนไปเป็นไนซ์กายได้ แต่เอาเข้าจริงแล้ว ไม่มีทางเป็นไปได้ ผู้หญิงหลายคนที่ต้องการเปลี่ยนแบดบอยลงท้ายด้วยการเดินออกจากชีวิตของแบดบอยแทบทั้งสิ้น
Real Man…ผู้ชายรสละมุนที่เป็นส่วนผสมของประสบการณ์และชีวิตลูกผู้ชายที่มีทั้งลองผิดลองถูกมาหลายวิธี หรือแม้กระทั่งเข้าใจเรื่องธรรมชาติของตนเองและของผู้หญิงมานานระดับปฏิบัติการ(ทฤษฎีเรื่องเล็กใครๆก็หาข้อมูลได้ แต่การลองในสนามจริงภาคปฏิบัตินั้นแสนโหด กว่าจะอยู่ตัวก็ใช้เวลาพักใหญ่) นั้นว่ากันว่าเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงต้องการที่สุด และอยู่ด้วยก็มีความสุขมากที่สุดเช่นกัน
ไม่อาจบอกได้ว่า เรียลแมนนั้นเป็นส่วนผสมจากแบดบอยไปผสมกับอะไร จริงๆแล้วเป็นคนละเรื่องกันมากกว่า
เรียลแมนนั้น เป็นคนที่มีส่วนผสมสำคัญของ ความเชื่อมั่น – ความเป็นชาย – มีอารมณ์ขัน – มีอะไรให้ลุ้น(เดาใจยาก+มีเซอร์ไพร้ส์) – มีเสน่ห์ – มีความเย้ายวนทางเพศ – เข้าสังคมเก่ง และ มีพรสวรรค์(บางทีก็เรียกว่าบุญญาบารมี) ครบเครื่อง
และเรียลแมนหรือผู้ชายเต็มตัวนั้น ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนหน้าตาหล่อเหลา ร่ำรวยมากมาย หรือเป็นคนที่สาวเห็นแล้วต้องกรี๊ดโลกแตก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาส่งสายตา หรือพูดอะไรออกมา รัศมีของความน่าสนใจจะพุ่งออกมาเป็นออร่าให้ใครต่อใครได้เห็นเอง และสิ่งนั้นก่อให้เกิดความสนใจ ประทับใจ แทบจะในทันที
นี่เองคือความแตกต่างที่ทำให้เรียลแมนมีเหนือไนซ์กายและแบดบอยท่วมท้น
นึกถึงภาพผู้ชายที่หน้าตาก็งั้นๆ แบบบ้านๆ แต่ เวลาคุยกับผู้หญิงแล้วทำให้ผู้หญิงอารมณ์ดี มีความสุข มีการหัวเราะในลูกเล่นลูกฮาที่ออกมากลมกล่อม(ไม่จำเป็นต้องเป็นเดอร์ตี้โจ๊กด้วยซ้ำ) และเดาไม่ออกว่าบางเรื่องที่พูดมานั้นจะมีตอนจบเป็นอย่างไร ภาพรวมๆนั้นทำให้ผู้หญิงที่เพิ่งพบเรียลแมนครั้งแรกรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ ไม่ต้องนั่งเกร็งว่าจะคุยกันเรื่องอะไรเพราะเรียลแมนสามารถนำพาผู้หญิงไปในจุดที่น่าสนใจได้เสมอ
เรียลแมนไม่ได้คุยโม้ถึงความสามารถของตนเอง เพราะรู้ว่านั้นไม่ใช่สิ่งที่จะเอามาสร้างความสนใจให้ผู้หญิงต้องนั่งกลุ้มว่าเอาแต่คุยโม้แต่เรื่องของตนเอง แต่เรียลแมนสามารถทำให้ผู้หญิงสนุกสนานกับการนำเรื่องของเธอออกมาคุยอย่างมีรสชาติและเขาจะกลายเป็นผู้ฟังที่ดีได้แบบนึกไม่ถึงในขณะที่มีมุขสอดแทรกยิงคำถามจนผู้หญิงเพลิน
แน่นอนว่า เรียลแมนเคยมีทั้งความผิดพลาดและสมหวังมาสารพัด แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่นๆก็คือการพัฒนาตลอดเวลาในทุกเรื่อง (อารมณ์ขัน ความมั่นใจ ความเซ็กซี่ เรื่องคุย ฯลฯ) และเป็นไปได้ว่าเรียลแมนอาจเคยเป็นแบดบอยมาก่อนที่จะพัฒนามาเป็นเรียลแมน หรือบางรายก็เป็นเรียลแมนมาตั้งแต่หนุ่มๆแล้ว
เรียลแมนนั้นเปรียบเหมือน การเสริฟข้าวเปล่าทีมีกับข้าวหลายรูปแบบที่ผลัดเปลี่ยนเวียนกันมาให้ชิม บางคราวก็โละเมนูข้าวไปเป็นพิซซ่า หรือบางทีก็เป็นอาหารจีน หรือเป็นข้าวต้ม หรือเป็นสารพัดอาหารที่ทำให้ผู้หญิงกินแล้วไม่เบื่อ
การได้อยู่ ได้คุย ได้สนทนากับเรียลแมนนั้นคือโมเมนต์แห่งความสุขที่ไม่เพียงแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่สัมผัสได้ จริงๆแล้วใครๆก็มีความสุขและได้อรรถรสในการคุยกับเรียลแมนได้ทั้งนั้น...
เรียลแมนสามารถแยกได้ว่าจะคุยกับผู้หญิงคนไหนในแบบ “เป็นแค่เพื่อน” หรือ จะ “จีบเป็นแฟน” และทุกครั้งที่คุยกับสาวๆนั้นเรียลแมนไม่เคยประหม่า เขาเพียงแค่ “เป็นตัวของตัวเอง” และ “ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเอง” โดยที่ไม่จำเป็นต้องเอาใจหรือตามใจผู้หญิงทุกเรื่อง ลักษณะของเขามีความเป็นผู้นำเด่นชัดมาก และสิ่งนี้เองทำให้ผู้หญิงให้ความเคารพ เกิดแรงดึงดูดใจ และ ก่อให้เกิดความรักได้(หากเขาต้องการจีบในฐานะแฟน)
เรียลแมนเปรียบเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมที่อยู่ในวงกลม...นั่นคือ ยอมยุบให้ได้บ้าง(วงกลม)แต่ไม่ยอมทิ้งหลักการ(สี่เหลี่ยมภายใน)เด็ดขาด (อาจเปรียบเป็นกำปั้นที่สวมนวมก็ได้ คือ นิ่มที่นวมภายนอกแต่ภายในที่เป็นกำปั้นนั้นแข็งแกร่ง) และนั่นคือตัวตนของเขา – เรียลแมน
มาถึงบรรทัดนี้อยากจะบอกว่า การเป็นไนซ์กายไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ไนซ์กายเป็นเรื่องดี แต่ในเวทีของการสานสัมพันธ์ความรักกับผู้หญิงนั้นส่วนใหญ่ไนซ์กายไม่อาจสร้างแรงดึงดูดใจ(เพราะจืดชืด)ได้เลย จึงคงมีพวก แบดบอย และ เรียลกาย เท่านั้นที่ไปได้ถึงจุดนั้น...และท้ายที่สุด ความที่แบดบอยมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมตลอดเวลาจึงทำให้เป็นพวกยอมหักไม่ยอมงอจึงอาจทำให้ทุกฝ่ายเจ็บปวดได้เสมอ
ส่วนเรียลกายก็อย่างที่บอกมาแล้ว...พวกเขาเข้าใจความต้องการของตนเองมีความเชื่อมั่นและรู้ว่าผู้หญิงต้องการอะไร อีกทั้งเป็นกลุ่มที่ยืดหยุ่นได้ตามความเป็นจริง ดังนั้น เรียลกายจึงเป็นพวกทีมีความสุขในชีวิตแท้จริง และที่สำคัญ ทำให้ผู้หญิงในชีวิตของเขามีความสุขด้วย คนรอบข้างก็มีความสุขเช่นกัน
(หมายเหตุ...โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน )
Pete@Copyright