Single, Now and Then.
· ความโสด...คือเป้าหมายของคนที่ใช้ชีวิตคู่ไปสักระยะหนึ่ง และ เริ่มรู้ตัวแล้วว่าชีวิตที่ดำเนินอยู่ตอนนั้น “ไม่ใช่ซะงั้น”
· ความโสด ... คืออำนาจเผด็จการของการตัดสินใจทั้งหมด...คนมีชีวิตคู่ไม่อาจดึงอำนาจนั้นกลับมาได้อีกแล้ว และถึงแม้ทำได้ โอกาสบ้านพังและโอกาสเป็นโสดอาจหวนกลับมาสู่ชีวิตอีกครั้ง...แต่คราวนี้อาจมาพร้อมกับความเสียใจและอาการตั้งตัวไม่ทัน
· ความโสด...คืออำนาจหอมหวานที่สามารถถึงดูดคนโสดด้วยกัน และ ดูดดึงคนที่ไม่โสดให้เข้าใกล้อย่างไม่น่าเชื่อ
· ความโสดเหมือนอากาศ...ถ้าขาดอากาศแล้วจะต้องตาย ....บางคนอยากเป็นโสดตลอดชีวิตเพราะกลัวไม่มีอากาศ ...คนมีคู่บางคนจะเข้าใจดีถึงอาการ “ขาดอากาศ” กระทั่งอยากจะ “มีอากาศ” จนบางทีต้อง “หย่า” เพื่อให้ได้อากาศมาหายใจคล่องๆ
· ความโสด...มีอานุภาพของความเซ็กซี่อยู่ในตัวเอง แต่คนโสดส่วนใหญ่ไม่รู้เพราะมักจะมองคนมีชีวิตคู่โดยคิดว่าคนมีคู่นั้นหวานชื่นกุ๊กกิ๊กตลอดเวลา แต่ความเป็นจริงนั้นส่วนใหญ่จะตรงข้ามเพราะภาพที่เห็นนั้นเป็นแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ของชีวิตเท่านั้น ส่วนอีก 80 เปอร์เซ็นต์นั้นแย่กว่าที่คนโสดคิดเสียอีก
· ความโสด....ทำให้สามารถเดินเข้าสู่มิติของความสัมพันธ์ในหลายรูปแบบมากเกินจินตนาการ...และเอาเข้าจริงแล้วความโสดทำให้ชีวิตมีสีสันมากกว่าช่วงใดๆ...คนที่เข้าใจชีวิตจะใช้ความโสดได้หลากหลายรูปแบบในสังคม ในขณะที่มีคนโสดอีกไม่น้อยที่ยังมึนงงกับตัวเองว่าจะหาความสุขจากความโสดได้อย่างไร....และเมื่อตกลงไปในกับดักความมึนงงก็เลยทำให้คิดว่าชีวิตของตัวเอง “กร่อย” ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป
· ความโสด...หลายคนคิดว่าความโสดคือ “ความเหงา” เพราะต้องคิดอะไรทำอะไรเพียงคนเดียว...แต่จริงๆแล้วคนมีคู่ก็ตกอยู่ในสภาพ “ความเหงา” ไม่น้อยหน้ากัน ... สัจธรรมของโลกก็คือ “เราต้องพึ่งพาตนเอง”ในทุกๆเรื่อง แม้เราจะมีใครคอยให้คำปรึกษามากมายก็ตาม(ทั้งคนโสดและไม่โสด)แต่การ “ตัดสินใจขั้นสุดท้าย”จะอยู่ที่ตัวเราเองทั้งสิ้น...ไม่ว่าโสดหรือไม่โสดก็ต้อง “ตัดสินใจและให้คำตอบได้ด้วยตัวเอง” ในท้ายที่สุด ดังนั้น...ถ้าคิดว่าเหงาเพราะไม่มีใครช่วยตัดสินใจก็อาจจะต้องไตร่ตรองใหม่...เพราะเราทุกคนคือผู้รับผิดชอบชีวิตตนเอง.. .ทุกการตัดสินใจของเราคือคำตอบของทุกชีวิตและต้องเคารพตลอดจนปฏิบัติตามการตัดสินใจนั้น
· ความโสด....ความโสดกับความต้องการตามธรรมชาติ...ข้อนี้ขอเซนเซอร์ได้อ๊ะเปล่า?...จริงๆแล้วธรรมชาติให้ทางออกกับทุกชีวิตอยู่แล้ว...และก่อนที่จะมาอ่านบทความนี้ แต่ละคนคงมีทางออกกันตามสมควร ...ส่วนจะเพอร์เฝ็คหรือ สุขๆดิบๆกันเพียงใดต้องย้อนกลับไปอ่านย่อหน้าข้างต้น – คุณคือ decisive answerer (ผู้ให้คำตอบเด็ดขาด-คนสุดท้าย)สำหรับตัวเองมาตลอด ... และหากว่าสิ่งที่เป็นคำตอบมาตลอดนั้น “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” เพียงใด คุณคือคนเดียวที่จะอยู่กับชีวิตของคุณได้ดีที่สุด ... การโทษคนอื่นหรือโยนความผิดให้คนอื่นต้องไม่ลืมว่า “คุณมีส่วนในความผิดที่รับรู้หรือมองเห็น”ด้วยเสมอ เพราะ คุณได้ “ตัดสินใจลงไปแล้ว” ...ดังนั้น การทดลอง – การเดินหน้า หรือการลังเล ล้วนมาจาก “สมอง”ของมนุษย์ทุกคน
· ความโสด....คือสิ่งที่ทำให้คุณอ่านมาถึงตรงนี้...จากนี้ไป ถ้าคุณอยากเห็นหน้าตาความโสดของคุณเป็นแบบไหน บางที การบอกตัวตนความโสดของคุณในคอมเมนต์ข้างล่างน่าจะสะท้อนดีกรีความโสดที่น่าสนใจมากขึ้นกว่าทุกรายการข้างต้นก็ได้....จะไม่ลองแชร์ไอเดียกันสักหน่อยหรือ?
Note: ไม่ต้องซีเรียส ...เรื่องแบบนี้ไม่ใช่การทำข้อสอบ ไม่มีการชี้ผิด-ถูก...เป็นเรื่องของต่างคนต่างคิด...และเอาเข้าจริงแล้ว มันก็เป็นหนึ่งในหลายๆหมื่นเรื่องที่คนเรามักจะปล่อยใจคิดไปสารพัดเรื่องในแต่ละวันอยู่แล้ว....