เรื่องเล่าก่อนเข้านอนมาแล้วค่ะ
เรื่อง_ให้ทุกข์แก่ท่าน_ทุกข์นั้นถึงตัว
...ในอดีตกาลนานสองพันห้าร้อยกว่าปี หมู่บ้านเล็ก ๆ ชายป่าแห่งหนึ่ง
"เฮ้ย อีแก่เว้ย เสร็จยังวะ"
"เสร็จแล้ว ๆ จะรีบไปไหนตาแก่ ป่าก็อยู่แค่นี้"
...หญิงชราเดินลงจากเรือน ยื่นห่อข้าวให้ชายชราหน้าเรือน ชายชรามีหนวดเคราที่รกครึ้ม
...ผมแม้จะดอกเลาแล้วแต่ก็ยังมีท่าทีทะมัดทะแมง ดวงตาวาววับ แบกคันศรและกระบอกลูกธนูไว้
...เขามีชื่อว่า โกกะ เป็นนายพรานสุนัข มักจะนำสุนัขเพื่อให้ไปล่าสัตว์กับตนเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน หลังจากได้เสบียงแล้วก็เดินออกจากบ้าน มุ่งหน้าเข้าไปยังป่า ค่อนชีวิตแกทำบาป
ด้วยการพรากชีวิตสัตว์ 365 วัน แทบไม่มีวันไหนที่แกไม่ได้ไป นอกจากไม่สบายหรือติดธุระจริง ๆ เท่านั้น
...นอกนั้นเช้าก็ไปป่า เย็นก็กลับมากินข้าว แกไม่เคยถือกฏของป่า ที่ว่า ห้ามล่าสัตว์หน้าฝน เพราะว่าหน้าฝนเป็นหน้าที่สัตว์มีลูก แกขอแค่ให้ได้ยิงสัตว์จะมีลูกหรือไม่มีลูกไม่สน
...ภรรยาของแกเคยขอร้องให้แกพักผ่อนบ้าง แต่ไม่เคยเลยที่แกจะรับฟัง แกเดิมดุ่ม ๆ ไปยังแร้วที่แกดักไว้เมื่อคืน เพื่อดูว่ามีสัตว์ที่หลงเข้ามาติดบ้างหรือเปล่า แร้วว่างเปล่า แกเดินสบถอย่างหัวเสีย ไปตามทางริมภูเขา
...สวนทางกับพระองค์หนึ่ง
ท่านกล่าวว่า..."คุณโยม แถวนี้มีบ้านคนบ้างไหม"
ชะ รู้แล้ว ทำไมเช้านี้ไม่ได้สัตว์สักตัว เจอคนกาลกิณีเข้าให้นี่เอง แกบ่นในใจ
...กล่าวว่าไม่มีหรอก ท่านอยากหาบ้านคนก็เดินไปหาเองสิ
แล้วก็เดินจ้ำจากไป พระภิกษุยังคงเดินไปอย่างสงบ จนถึงบ้านนายพราน
...ภรรยานายพรานเห็นพระก็ยินดี คิดว่าในป่าในเขา ไม่ค่อยมีพระมาบิณฑบาตเท่าไหร่ วันนี้ได้เจอพระ ดีใจจริง ใส่บาตรสักหน่อยดีกว่า จึงนิมนต์ท่านให้หยุด แล้วรีบเอาข้าวมาใส่บาตร
ท่านรับบิณฑบาตรแล้วให้พรแล้วก็เดินกลับที่พักของท่าน
.......................................
...ส่วนนายโกกะ ตาเฒ่าทมิฬ หลังจากเดินไปดูกับดักและหลุมพรางทุก ๆ ที่ ๆ วางไว้ ก็ไม่มีสัตว์สักตัวที่มาติด เพราะป่าแถบนี้โดนแกล่าเสียจนไม่มีสัตว์จะกล้าอยู่แล้ว
...แกโกรธเคืองอย่างมาก เดินกลับมาทางเก่า พบพระภิกษุในระหว่างทาง สันดานคนชั่ว ไม่คิดโทษตัวเอง คิดแต่โทษคนอื่น แกคิดว่า..."ชะ ๆ ๆ ๆ ๆ เพราะไอ้พระนี่แน่ ๆ ทำให้กูล่าอะไรไม่ได้ ได้เสีย เจออีกแล้ว คราวนี้กูเอามึงตายแน่ ๆ"
...แล้วแกก็ให้สัญญาณหมา ฝูงหมาก็ไล่กัดพระ ท่านก็วิ่งขึ้นต้นไม้ ตามพระวินัยแล้วพระขึ้นต้นไม้สูงเกินวาหนึ่งไม่ได้ นายพรานเดินไปที่ใต้ต้นไม้ กล่าวว่า
"หนีมาอยู่นี่เองเรอะ คิดว่าจะหนีข้าพ้นรึไง"
"คุณโยม อาตมาขอร้อง ท่านอย่าทำอย่างนี้เลย"
"ช่วยไม่ได้โว้ย แกเสือกเดินมาพบข้าเอง วันนี้ข้าหงุดหงิดที่ล่าสัตว์ไม่ได้ ขอล่าแกแทนก็แล้วกัน"
...แล้วก็ปลดเอาลูกศรมาแทงฝ่าเท้าของท่าน
...ท่านเจ็บหดเท้ากลับ นายพรานก็แทงเท้าอีกข้าง ท่านหดไปหดมา
...นายพรานก็ไล่แทงไปแทงมา นายพรานหัวเราะฮ่า ๆ อย่างสะใจคอซาดิสต์
...ท่านไม่อาจจะทนทุกขเวทนาได้ ผ้าจีวรก็ค่อย ๆ หลุดลุ่ย พรึบ
เฮ้ยยยย โฮ่ง ๆ ๆ แฮ่
"อ้าก โอ้ย พวกมึงอย่ากัด นี่กูเอง อ้าก"
ผ้าจีวรหลุดคลุมกลางหัวของพรานป่าทมิฬ ฝูงหมาคิดว่าพระตกลงมาจึงรุมกัดนายพรานเสียงร้องโหยหวนดังก้องไปทั่วป่า
อนิจจานายพรานกลับต้องมาจมคมเขี้ยวหมาของตัวเอง
เสียงร้องค่อย ๆ แผ่วลงแล้วเงียบสนิท ฝูงหมารุมทึ้งกัดกินนายพรานอย่างเอร็ดอร่อยจนอิ่ม
เหลือแต่กระดูกขาวเว่อที่กองบนพื้น พระภิกษุค่อย ๆ ปีนลงมา ขว้างไม้ไล่ ฝูงหมาพอเห็นพระก็รู้ว่าพวกตนกัดเจ้าของตายเสียแล้วจึงวิ่งหนีเข้าป่าไป พระภิกษุรู้สึกเสียใจที่เป็นต้นเหตุให้คนตายและเดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า
ทูลถามว่า..."ข้าพระองค์ยังเป็นภิกษุอยู่หรือไม่พระ เจ้าข้า"
"...เธอไม่มีเจตนา เธอยังเป็นภิกษุอยู่ พระพุทธเจ้าตรัส
อีกอย่างหนึ่งเขาก็ได้รับกรรมที่สาสม เพราะคนที่ประทุษร้ายต่อคนที่ไม่ประทุษร้ายต่อตนเองนั้น ย่อมจะพลันถึงฐานะสิบประการ เหมือนคนที่ซัดฝุ่นทวนลมฝุ่นนั้นก็จะย้อนกลับมาหาเขาเป็นแน่แท้..."
??
??![](https://www.facebook.com/images/emoji.php/v9/f75/1/16/1f618.png)
เป็นมนุษย์ป้าอารมย์ดี ที่มีเรื่องราวมากมายผ่านมา และผ่านไป
ยิ้มกับตัวเองมากๆ ทุกสิ่งอัน ล้วนผ่านมา และผ่านไป
" ยิ้มหวาน หวานไหว ใครเล่า หวานเท่า ^-^ เราเอง "
ฝันดีนะคะ ♥