บนเส้นทางสายความรัก เราเห็นก้อนหิน ก้อนกรวด ขี้โคลน ตามรายทางเสมอ
บ่อยครั้งระหว่างที่อยู่บนเส้นทางนั้นเราแหงนหน้ามองดูท้องฟ้า ชมก้อนเมฆ มองดูสายรุ้ง และบอกว่าสิ่งเหล่านั้นงดงามเหลือเกิน
มีไม่น้อยอีกเช่นกันที่เราเจอฝนตกใส่จนเปียก บ่อยครั้งเราอยากลงไปเล่นน้ำฝนแม้รู้ว่ามันอาจทำให้เป็นหวัดได้ง่ายๆ แต่เราก็ “อยากลอง” และก็ไม่สบายจริงๆ
บางครั้งบางคราว เราเถลไถลลงนั่งข้างทางและมองลำธารเล็กๆที่มีน้ำใสไหลผ่าน ใต้ผืนน้ำเล็กๆนั้นมีก้อนหินหลากสีชวนให้หยิบขึ้นมาดูเล่น พอเริ่มเบื่อเราก็จากไป
นานมาแล้ว เราอาจเจอคนเดินร่วมทางกับเราบ้าง เราคิดว่าคนๆนั้นคือคนที่ใช่ และคงไม่เปลี่ยนใจจากเรา แต่สุดท้ายความจริงบางอย่างก็ทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์ แม้เราจะฝืนเท่าไหร่แต่ลงท้ายก็ต้องตัดใจจากกันไป
เราอาจเบื่อ อาจท้อ และอาจสิ้นหวังในเรื่องการหาใครสักคนมาเดินร่วมเส้นทางความรักกับเรา แต่ลึกๆแล้ว เราลืมอะไรไปหรือไม่
... เราอยากให้ใครๆรักเรา หรือเราอยากรักใครสักคน แต่เราเคยรู้บ้างไหมว่า... เราไม่เคยรู้เลยว่าเรา “รักตัวเราเอง” เป็นหรือไม่?
... การรักตัวเองให้เป็นคือบทพิสูจน์ยอดเยี่ยมว่า ถ้าเรารู้จักรักตัวเราเองเป็นแล้ว เราจะใช้มุมมองหรือความคิดแบบเดียวกันนั้นเพื่อนำไป “รักคนอื่น” เป็นเช่นกัน
... แล้วรักตัวเองเป็นนั้น คืออะไร?
... คำตอบอาจมีมากมาย แต่สำหรับมุมมองหนึ่งของคนที่รักตัวเองเป็น(คนหนึ่ง)นั้น การรักตัวเองคือ การรู้จัก “ให้ทาน”ตัวเองให้เป็น และมันคงมีลักษณะเหมือน การหยุดเอาความคิดแบบเนกาทีฟมายัดใส่สมองตัวเองสักพัก นั่นเท่ากับเป็นการปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการอันหนักหน่วงเพื่อให้พบกับความเบา หรืออย่างน้อยก็ได้มองเห็นตัวเองอย่างจริงๆจังๆสักครั้ง
… นั่นคือมุมมองของ “ความรักตัวเอง” ด้วยจิตใจที่โล่งจริงๆ และมันคือความรักตัวเองที่เราสามารถมอบให้กับตัวเองได้ จากนั้น เมื่อเข้าใจตรงนี้แล้ว เราค่อยๆขยับฐานความรักตัวเองเอาไปเริ่มมองคนที่เราอยากจะรัก ตอนนั้นเราคงเริ่มมองเห็นความรักได้ชัดเจนขึ้น
... อ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะช้าอยู่ทำไมล่ะ.... ไปรักตัวเองซะให้ชุ่มปอดสิ....เข้าใจมั้ยออเจ้าทั้งหลาย
Pete@(hand)somewhere