Login
-
 view (224 )     comment (2 )     last update : 4/7/2561 23:13:29
มนุษย์ป้า
นิทานยามดึก " ความสุข บน ความพอดี "

เรื่อง ความสุข บน ความพอดี

เรื่อง_ความสุขของดอกบัว

...กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีดอกบัวน้อย ๆ ดอกนึงอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าสีเขียวขจี สมัยนั้นดอกบัวยังไม่ได้อยู่ในน้ำและไม่มีสีชมพูอย่างที่เราคุ้นกัน แต่มีสีเขียวอ่อนๆ ดูสุขสงบเย็นตา อยู่มาวันหนึ่งดอกบัวเริ่มเบื่อทุ่งหญ้าและสีสรรของตัวเอง จึงถามกับตัวเองว่า "ความสุขของฉันคืออะไร..?" แต่ไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้ ดอกบัวจึงเริ่มออกเดินทางเพื่อหาความสุข

...ระหว่างทางนั้นดอกบัวได้พบกับดอกกุหลาบ ดอกบัวเห็นดอกกุหลาบมีหน้าตาสะสวย สีแดงสดใส จึงถามดอกุหลาบว่า "กุหลาบจ๋า.. ความสุขของเธอคืออะไร..?"

...ดอกกุหลาบยิ้มนิดนึงจึงตอบว่า "ฉันมีความสุขที่ฉันมีสีแดงสดใส มีกลีบดอกที่บอบบางน่าทะนุถนอม ฉันมีความสุขทีฉันมีกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ฉันมีความสุขที่เมื่อถึงวันวาเลนไทน์ผู้คนมักใช้ฉันเป็นสื่อแห่งความรัก"

...ดอกบัวฟังดอกกุหลาบพูด แล้วรู้สึกว่าชีวิตของดอกกุหลาบช่างมีคุณค่ามีความสุขเสียจริง จึงเอ่ยปากว่า "กุหลาบจ๋าขอสีแดงให้ฉันสักนิดได้มั๊ย ฉันอยากมีความสุขแบบเธอบ้าง"

"อ๋อ..ได้สิฉันจะแบ่งให้" ดอกกุหลาบตอบมาอย่างใจดี พร้อมทั้งแบ่งสีแดงมาให้ดอกบัว แต่เมื่อดอกบัวได้สีแดงมาแล้วแทนที่จะเป็นสีแดงสดใสอย่างดอกกุหลาบกลับเป็นสีแดงเรื่อ ๆ ซีด ๆ อมชมพู

...เมื่อดอกบัวก้มดูตัวเองแล้วก็รู้สึกไม่พอใจที่ตัวเองเป็นอย่างนั้น จึงพูดว่า "กุหลาบจ๋า ดูสีฉันสิ..ช่างไม่สดใสเอาเสียเลย ทำอย่างไรฉันจะเป็นสีแดงสดใสอย่างเธอได้หละจ๊ะ กุหลาบจ๋า"

...ดอกกุหลาบไม่รู้จะช่วยอย่างไรเหมือนกันจึงบอกไปว่า "ไม่รู้สิ อาจเป็นเพราะฉันเติบโตในดินดีที่ดีๆ มีปุ๋ยเยอะๆ มีคนรดน้ำให้ มีคนคอยกำจัดแมลงให้มั้ง"

"เหรอ.." ดอกบัวคิดใคร่ครวญ "งั้นฉันจะไปหาดินดี ๆ ที่มีปุ๋ยเยอะ ๆ มีคนรดน้ำให้ มีคนกำจัดแมลงให้ บางทีฉันอาจมีสีแดงสดใสเหมือนเธอก็ได้เนอะ" ดอกบัวพูดออกมา

"ก็ลองดูสิ แต่ดอกบัวจ๋า ฉันต้องขอตัวไปก่อนนะ แดดเริ่มแรงแล้วเดี๋ยวดอกฉันจะเหี่ยวเฉาเสียก่อน"

"จ๊ะ ขอบคุณเธอมาเลยนะจ๊ะดอกกุหลาบที่ช่วยแนะนำฉัน"

"อ๋อไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ฉันเห็นเธอมีสีเขียวซีด ๆ แล้วไม่สบายใจ เลยอยากให้เธอดูสดใสเหมือนฉันบ้าง ฉันไปก่อนน้า.." แล้วดอกกุหลาบก็รีบเดินหายไปในเงาครื้มของป่าใหญ่เพื่อหลบแสงตะวันที่เริ่มร้อนแรงขึ้น

...เมื่อเห็นดอกกุหลาบ รีบร้อนจากไป ดอกบัวจึงคิดว่า "เอ จริง ๆ แล้วดอกกุหลาบคงไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ เพราะต้องคอยหลบแสงตะวันทุกวัน ฉันน่าจะเดินทางต่อไปเพื่อค้นหาคนที่มีความสุขที่แท้จริง" แล้วดอกบัวก็ออกเดินทางอีกครั้ง..

...เมื่อเดินมาได้สักพักนึง ดอกบัวก็เจอกับดอกทานตะวันที่มีสีเหลืองสดใสดอกใหญ่ ยืนยิ้มรับแสงตะวันอยู่ จึงเอ่ยปากทัก "สวัสดีจ๊ะ ทานตะวัน ฉันเห็นเธอยืนสง่าอยู่ในท้องทุ่ง สู้แสงตะวันแล้วประทับใจ ฉันเลยอยากรู้ว่าความสุขของเธอคืออะไร..?"

"อ๋อ ความสุขของฉันหนะเหรอ ความสุขของฉันคือ การที่ฉันมีดอกใหญ่มีสีเหลืองสดใส ถึงแม้ฉันจะไม่มีกลิ่นหอมก็เถอะ แต่เมื่อถึงฤดูที่ฉันเบ่งบานผู้คนมากมายจะเดินทางมาถ่ายรูปกับฉันและเพื่อน ๆ ฉันมีความสุขมากเลยนะ ที่ทุกคนให้ความสนใจฉันขนาดนั้น และที่สำคัญฉันไม่กลัวแสงตะวัน ตรงกันข้ามฉันชอบหันหน้าไปทางที่มีแสงตะวันด้วยซ้ำ" ดอกทานตะวันนยิ้มสดใส แล้วตอบมาอย่างใจดี

...เมื่อดอกบัวได้ยินดังนั้นจึงคิดว่า "หากฉันเป็นอย่างดอกทานตะวัน คงมีความสุขดีเนอะ" เมื่อคิดอย่างนั้นจึงเอ่ยปากกับดอกทานตะวันว่า "ทานตะวันจ๋า แบ่งสีเหลืองสดใสนั่น ให้ฉันได้บ้างไหม ฉันอยากมีความสุขอย่างเธอจังเลย"

"อ๋อ ได้สิ ฉันไม่หวงหรอก ฉันเห็นเธอมีสีชมพู ซีด ๆ แล้วนึกสงสารเหมือนกัน ดูช่างไม่สวยสดเอาเสียเลย" ว่าแล้วดอกทานตะวันก็แบ่งสีเหลืองสดใสมาให้ดอกบัว

...เมื่อได้รับสีเหลืองมาแล้วดอกบัวจึงก้มลงมองตัวเอง แต่ดอกบัวไม่ได้เป็นสีเหลืองอย่างที่คิด ยังคงมีสีชมพูซีด ๆ อย่างเดิม จึงเอ่ยปากถามดอกทานตะวันว่า "ทานตะวันจ๋า..ทำไมฉันจึงไม่มีสีเหลืองอย่างเธอเลยหละ ทำไมฉันยังเป็นสีชมพูซีดๆ เหมือนเดิมอยู่เลย"

...ดอกทานตะวันไม่รู้จะช่วยอย่างไร จึงแนะไปว่า "งั้นเธอลอง คลี่ดอกให้บานเพื่อรับแสงแดดอย่างฉันสิ เผื่อบางทีอาจทำให้เธอกลายเป็นสีเหลืองสดใสได้บ้าง"

...ดอกบัวจึงพยายามคลี่กลีบดอกให้บานเพื่อรับแสงตะวัน เมื่อกลีบดอกสีชมพูคลี่บาน ในที่สุดก็เห็นเกษรสีเหลืองสดใส เมื่อเห็นดังนั้นดอกบัวก็ดีใจ รีบขอบคุณดอกทานตะวันเสียยกใหญ่ "เกษรฉันเป็นสีเหลืองสดแล้ว ต่อไปฉันคงจะมีความสุขอย่างเธอสินะ เธอมีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกมาได้เลยนะ ฉันยินดีช่วยเหลือ ขอบคุณเธอเหลือเกิน"

....ดอกทานตะวันจึงบอกว่า "อ๋อ..เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอกจ้ะ แต่ฉันต้องขอตัวก่อนนะจ๊ะ เพราะปีนึงฉันบานได้แค่ครั้งเดียวเอง ไม่ได้บานตลอดทั้งปี จากนั้นไม่นานฉันก็จะตาย ช่วงนี้ฉันจึงต้องรีบเก็บเกี่ยวความสุขให้มากที่สุด ขอตัวก่อนนะจ๊ะ ขอให้เธอพบความสุขอย่างที่ต้องการนะ" ว่าแล้วดอกทานตะวันก็เดินจากไป

...เมื่อดอกทานตะวันเดินจากไป ดอกบัวก็เริ่มไม่แน่ใจว่า หากเป็นอย่างดอกทานตะวันจะมีความสุขจริง ๆ หรือเปล่า เพราะปีนึงบานได้แค่ครั้งเดียว และอยู่ได้ไม่นานก็จะตาย จึงเริ่มออกเดินทางเพื่อหาความสุขอีกครั้ง..

...เดินทางมาได้สักพัก จนมาถึงสนามหญ้าริมบึงใหญ่ที่กว้างขวาง ดอกบัวจึงได้พบกับดอกหญ้าเล็กๆ ดอกนึง แต่ดูแล้วถามไปคงไม่ได้คำตอบอะไรจากดอกหญ้า จึงพยายามเดินเลี่ยงไปไม่ได้ทักทายอะไร

"สวัสดีจ๊ะดอกบัว ฉันดอกหญ้านะ" ดอกหญ้าเอ่ยทักขึ้นมาก่อนพร้อมรอยยิ้มละไม และสายตาที่ชื่นชมดอกบัวเป็นอย่างมาก

...ด้วยความที่ดอกบัวไม่เคยมีใครมองด้วยสายตาที่ชื่นชมขนาดนั้น ทำให้รู้สึกดี จึงหยุดคุยกับดอกหญ้า

"สวัสดีจ๊ะดอกหญ้า" ดอกบัวเอ่ยตอบ

"ดูเธอช่างสวยงามเสียจริง ๆ กลีบก็สวยเป็นสีชมพูจาง ๆ ก้านเป็นสีเขียวอ่อน ๆ ช่างบริสุทธิ์สวยงามเสียจริง ๆ" ดอกหญ้าเอ่ยชมอย่างจริงใจ

...เมื่ออยู่ได้ใกล้กัน ดอกบัวก็เริ่มพิจารณาดอกหญ้าอย่างถี่ถ้วน แล้วก็นึกเห็นใจที่ดอกหญ้าช่างไม่สวยงามเอาเสียเลย.. เมื่อคิดดังนั้นจึงเอ่ยปากกับดอกหญ้าว่า "ดอกหญ้าจ๋า..ฉันสงสารเธอจัง ดูแล้วเธอคงไม่มีความสุขใช่ไหม..? ดอกก็เล็กนิดเดียวแถมกลีบก็ยังไม่สวยงาม กลิ่นก็ไม่หอมยวนใจ สีก็ดูสกปรกมอมแมมไม่สดใส ทำไมเธอไม่ลองหาที่ที่มีดินดีๆ ที่มีปุ๋ยเยอะๆ มีคนรดน้ำให้หละ เผื่อบางทีเธออาจมีสีสันสวยงามอย่างคนอื่นเขาบ้าง"

"หืมม์.. ใครบอกว่าฉันไม่มีความสุขหละ..?" ดอกหญ้ายิ้มละไม แล้วถามกลับมาอย่างอารมณ์ดี

"แล้วความสุขของเธอคืออะไรเหรอ..?" ดอกบัวเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

"ความสุขของฉันหนะเหรอ อืมม์.. ไม่รู้สิ ฉันมีความสุขเมื่อลมพัดมาและฉันได้เริงระบำพริ้วไหวไปตามสายลมมั้ง.. หรือบางทีความสุขของฉันก็คือสัตว์ทั่วไปได้กินใบของฉันเพื่อให้สัตว์เหล่านั้นยังชีพอยู่ได้ ฉันมีความสุขง่าย ๆ อย่างนี้แหละ" ดอกหญ้าตอบไปอย่างที่คิด

...เมื่อได้พูดคุยกับดอกหญ้า ลึกลงไปแล้ว..ดอกบัวรู้สึกอบอุ่นและคุ้นเคย แต่ยังไม่เห็นด้วยว่าจะมีความสุขที่เรียบง่ายอย่างนั้นได้จริง ๆ จึงบอกไปว่า "ทำไมเธอไม่ลองมีความสุขอย่างดอกกุหลาบ ดอกทานตะวัน หรือดอกไม้อื่นๆ ที่มีสีสรรรูปทรงแปลกตา หรือไม่ก็มีกลิ่นหอมดูบ้างหละ บางทีอาจทำให้เธอมีความสุขมากกว่านี้ก็ได้นะ"

"เหรอ.. ไม่ดีกว่า ฉันมีความสุขของฉันอย่างนี้ เธอหละดอกบัวความสุขของเธอคืออะไร" ดอกหญ้าเอ่ยถามกลับมา

"ไม่รู้สิ.. ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความสุขของฉันคืออะไร ฉันจึงออกเดินทางมาเพื่อหาความสุขนี่ไง"

"เธอคงเดินทางมาจนเหนื่อยสินะ พักอยู่นี่ก่อนสิ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนดีมั้ย บางทีฉันอาจช่วยอะไรเธอได้บ้าง" ดอกหญ้าเสนอ

"อืมม์...ก็ได้" ดอกหญ้าคิดนิดนึง แล้วจึงตอบตกลง

...เมื่อหยุดพักด้วยกัน ดอกหญ้าก็พยายามแนะนำให้ดอกบัวลองหยั่งรากลึกลงไปในดิน เพื่อจะได้ยึดดินที่ริมตลิ่งไว้ให้แน่น ๆ เมื่อน้ำเหนือหลากมาดินจะได้ไม่พังทลาย เหล่าดอกไม้จะได้อาศัยยึดเกาะอยู่ได้

"ทำไมเราต้องทำเพื่อคนอื่นขนาดนั้น" ดอกบัวเอ่ยถาม ขณะที่พยายามหยั่งรากลงในดินอย่างที่ดอกหญ้าแนะนำ

"เราไม่ได้ทำเพื่อคนอื่นอย่างเดียว ถ้าดินที่ตลิ่งนี้ไม่แข็งแรงตัวเราเองก็อยู่ไม่ได้ หากน้ำเหนือหลากมา เราจะถูกกระแสน้ำพัดหายไป อีกอย่างการหยั่งรากลงในดินก็ไม่ได้เหนื่อยยากอะไรนี่นา จริงมั้ย" ดอกหญ้าแนะนำ

...ดอกบัวก็พยายามทำตามคำแนะนำ สักพักนึงก็รู้สึกว่า การหยั่งรากลงในดินช่างเป็นงานที่น่าเบื่อหน่ายเหลือเกิน

...หลายวันผ่านไปดอกบัวเริ่มรู้สึกอึดอัด ที่มีดอกหญ้าอยู่ใกล้ ๆ คอยแนะนำ คอยสอนอะไรมากมายที่น่ารำคาญและไม่มีประโยชน์ อีกอย่างดอกหญ้าก็ยังคงเป็นดอกหญ้าไม่ได้สวยงามขึ้นมาเลย เมื่อเริ่มอึดอัดจนทนไม่ไหวจึงตัดสินใจเอ่ยปากกับดอกหญ้าว่า

"ดอกหญ้าจ๋า.. ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนดี แต่ฉันคิดว่าต่อไป เราอย่าอยู่ใกล้กันอีกเลยนะ ฉันคิดว่าฉันพอจะหาความสุขด้วยตัวของฉันได้"

...ดอกหญ้าได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้กล่าวอะไร ได้แต่พยักหน้าแล้วซึมเศร้าอยู่ตามลำพัง

...หลังจากนั้นดอกบัวก็พยายามหาความสุขของตัวเองอยู่เงียบๆ เช่นกัน ด้วยการเดินห่างดอกหญ้ามาอีกนิด เพื่อจะได้อยู่ใกล้กับริมบึงใกล้แหล่งน้ำและดินที่ดีกว่าอย่างที่ดอกกุหลาบแนะนำ จากนั้นก็พยายามคลี่กลีบดอกให้เบ่งบานในช่วงเช้าเมื่อแสงแดดส่องมา อย่างที่ดอกทานตะวันเคยแนะ ไม่นานเมื่อกลีบสีชมพูคลี่บานออกมา กลิ่นหอมละมุนนั้นขจรขจายไปทั่ว เมื่อกลีบดอกบานออกเต็มที่จะเห็นเกษรสีเหลืองเข้มตัดกับสีชมพูดูสวยงามยิ่งนัก

...ดอกบัวคิดในใจว่า "โอ..ฉันได้พบความสุขแล้ว ผู้คนคงชอบใจที่ฉันมีกลีบดอกที่สวยงาม กลิ่นของฉันก็หอมละมุน แม้จะไม่หอมอย่างดอกกุหลายก็เถอะ แต่ฉันมีดอกก็โตกว่าดอกกุหลาบและฉันก็ไม่กล้วแสงตะวัน ที่สำคัญฉันยังเบ่งบานได้ทุกวัน ไม่ได้บานเฉพาะฤดูกาลอย่างดอกทานตะวัน อีกด้วย" แต่เมื่อเวลาใกล้เที่ยงแดดแรงขึ้นดอกบัวเริ่มสัมผัสได้ถึงความร้อนแรงของแสงตะวัน จึงได้หุบกลีบลง

...ตั้งแต่นั้น..ทุก ๆ เช้า ดอกบัวจะคลี่บานส่งกลิ่นหอมไปทั่วริมบึง แต่เมื่อแสงแดดแรงกล้าขึ้นดอกบัวก็เริ่มเรียนรู้ที่จะหุบกลีบลง เพื่อจะเก็บกลีบสวย ๆ ไว้จะได้บานต่อไปในเช้าวันรุ่งขึ้น ดอกบัวมีความสุขอยู่เช่นนี้จนหลงลืมดอกหญ้าไปสนิทใจ

...หลายวันผ่านไป หลังจากชื่นชมกับความสุขอย่างอิ่มใจแล้ว ดอกบัวอยากบอกใครสักคนว่าตัวเองนั้นมีความสุขแค่ไหน จึงคิดถึงดอกหญ้าขึ้นมา แต่เมื่อหันไปมองตรงที่ดอกหญ้าเคยอยู่ ก็ไม่เจอดอกหญ้าเสียแล้ว..

...จนเวลาผ่านไป..เมื่อฝนเทลงมาน้ำเหนือเริ่มไหลหลาก ตลิ่งที่ดอกบัวอาศัยอยู่ก็พังทลายลง เพราะดินทรายไม่มีที่ยึดเกาะ ดอกบัวสุดที่จะต้านทานได้ จึงย้ายตัวลงไปอยู่ในบึงแทน โดยไม่ขึ้นมาบนฝั่งอีกเลย แต่ทุกๆ เช้าดอกบัวจะมีความสุขกับแสงตะวัน การส่งกลิ่นหอมขจรรับแสงแดดยามเช้าเช่นเดิมทุกวัน

...นาน ๆ ครั้งเมื่อสายลมพัดผ่านมา ดอกบัวก็จะไหวตัวเพียงนิด ตามกระแสลม เมื่อนึกถึงคำพูดของดอกหญ้า "ฉันมีความสุขเมื่อลมพัดมา และฉันได้เริงระบำพริ้วไหวไปตามสายลมมั้ง.." แต่ทุกครั้ง..ดอกบัวก็ยังสัมผัสความสุขนั้นไม่ได้สักที การพริ้วไหวไปกับสายลม ความสุขกับสิ่งที่เรียบง่ายเช่นนี้มีจริงหรือ..?

อ่านจบแล้ว ก๊อขอให้พบความสุขที่แท้จริง

ฝันดีค่ะ  ????

ความคิดเห็น
ผู้แสดงความคิดเห็น

เรื่องนี้ทำให้รู้ว่า ความสุข เกิดจากใจของเราเอง หากเรารู้ว่าอะไรที่เหมาะสมกับเรา ก็ไม่จำเป็นต้องไปไขว่คว้าหาสิ่งอื่นๆ ให้เหมือนคนอื่นเขา .. สุขในแบบของเรา เที่ยงแท้ แน่นอน ...
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 12/7/2561 12:49:04