วันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดยาวๆที่วนเวียนเข้ามาหาชีวิตของเราบ่อย ๆนั้นควรเป็นวันที่ทำให้ชีวิตรักของเรามีความสุขกันบ้าง
ถ้ายังไม่มีคนให้รัก ก็ไม่เป็นไร เราก็ยังรักตัวเราเองได้เสมอ และความรักแบบนั้นย่อมนำไปสู่ “ความสุข” และ “ความอร่อย”ได้ง่ายๆหากพาตัวเองและความรัก(หรือคนรัก)ไปลงเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยากัน
แม้เจ้าพระยาจะมีความยาวหลายร้อยกิโลเมตร แต่ช่วงที่สามารถหาความสุขได้ง่ายๆตามประสาคนกรุง(เทพ)นั้นก็อยู่ในโซนแคบ ๆแค่เขตกรุงเทพนั้นแหละ
เฉพาะเขตกรุงเทพฯก็มีหลายจุด หลายรูปแบบ แต่ที่ง่ายๆ ชิลๆและใช้เวลาสั้นๆได้พาตัวเองไปพบกับความรัก(จากการกินและเดินชมชีวิตผู้คนหัวอกเดียวกัน)นั้นขอโฟกัสกันที่ “วังหลัง” ซึ่งอยู่ใกล้ๆศิริราชก็แล้วกัน
ใครที่เคยไปแล้วก็ไม่เป็นไร เพราะเห็นมีคนไปแล้วก็ไปอีก และไปกันได้บ่อย ๆเพราะที่ย่านนั้นมีอะไรให้ดูมากมาย
ก่อนที่จะไปที่วังหลังนั้น ถ้าอยากฟินกับธรรมชาติแบบชาวกรุงเท่ๆก็คงต้องไปลงเรือ และเรืออะไรที่แอดเวนเจอร์หน่อยๆ มีโยกมีส่ายมีเบียดเสียดบ้างก็คงไม่แคล้วเรือด่วนเจ้าพระยาครับ ใครถนัดมาทางรถไฟฟ้าก็ไปลงที่สถานีสะพานตากสินแล้วต่อเรือด่วนไปวังหลัง ราคาค่าตั๋วเรือด่วนแค่ 15 บาทต่อคนเท่านั้น แต่ถ้าถนัดขับรถไปจอดที่ท่าเรือนั้นก็แล้วแต่สะดวก
โดยส่วนตัวแล้วผมไปจอดรถแถวราชวงศ์แล้วลงเรือ เพราะบางทียังนึกครึ้มๆใจอยากเดินดูของแถวสำเพ็ง เสือป่า เยาวราช คลองถมสักนิด พอหิวๆแล้วก็ค่อยลงเรือด่วนซึ่งก็เสียค่าตั๋ว 15 บาทเช่นกันหากจะล่องไปจนถึงวังหลัง
ขอบอกว่าเวลาลงเรือแล้ว (จะได้นั่งหรือไม่ได้นั่งก็ช่างมัน) จะฟินมาก เพราะวิวสองข้างทางนั้นมีเสน่ห์เหลือหลายทั้งซ้ายขวา ส่วนจะเก็บภาพกันอย่างไรก็ตามถนัดเพราะจะเห็นทั้งสะพานพุทธ ตลาดปากคลอง วัดอรุณ กองทัพเรือ วัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง กรมอู่ทหารเรือ วัดระฆัง ท่าช้าง และท่ามหาราช(ที่นี่ก็น่าเที่ยว) ก่อนจะไปจอดกันที่วังหลังหรือท่าศิริราช
ลงไปถึงตรงนั้นแล้วก็ตัวใครตัวมัน เอ๊ย ไม่ใช่...ตรงนี้จะเป็นแหล่งที่กิน ที่ซื้อของฝาก ที่เดินชิลๆ นั่งเพลินๆ หรือจะแวะหาซื้อของน่ารักๆได้เสมอ โดยส่วนตัวนั้นผมว่าแหล่งนั้นเป็นแหล่งของกินที่เป็นแบบบ้านๆ ราคาไม่แพง และมีหลากหลายจนเดินทั้งวันก็ชิมได้ไม่ทั่ว
ผมชอบไปเก็บภาพที่นั่น แค่ถ่ายภาพขนมสารพัดก็แทบตาลายแล้ว จะเอาอะไรล่ะ ที่นั่นมี ขนมถังแตก กล้วยย่าง ขนมไทย เบเกอรี่สารพัดรูปแบบ ขนมไทยหายากๆก็อยู่แถวๆนั้น บางชนิดก็ทำกันสดๆให้เห็นกันจะๆ จะเก็บภาพเท่าไหร่ก็ทำตามถนัด
ถ้าไม่มองขนม แต่จะมองของกินหลักๆนั้นก็มีให้เลือกจนอยากจะกรี๊ด เห็นว่าซูชิที่นั่นเด็ดดวงนัก ผมลองมาแล้วครับ ทั้งอิ่มทั้งราคาไม่แพง จะสั่งแบบเป็นเซ็ทหรือแบบแยกชิ้นก็ได้ไม่มีใครว่า แต่เสาร์อาทิตย์นั้นบางร้านอาจจะต้องรอคิวกันบ้าง (มีคนจัดคิวให้เสร็จสรรพ) หรือถ้าไม่กินซูชิจะเลือกร้านริมน้ำเจ้าพระยาก็เท่ไม่เบา ราคาไม่แพงซะด้วย อาหารก็มีหลายแบบหลายสไตล์ เสร็จจากอาหารแล้วจะไปต่อเรื่องผลไม้ต่าง ๆก็มีให้เลือกจนตาลาย แต่ผมชอบกระท้อนทรงเครื่องเจ้าที่อยู่เกือบๆจะถึงถนนอิสระภาพแล้วนั่นแหละ กินแล้วฟินสุดๆ (กระท้อนลูกใหญ่เท่าฝ่ามือกาง เครื่องแน่นอีกต่างหาก)
เส้นทางการเดินหาของกินนั้นลากยาวจากริมน้ำไปจนถึงถนนอิสรภาพ แถมยังมีซอกซอยย่อย ๆให้เข้าไปแวะดูของกินได้ตามสะดวก ใครอยากหากาแฟหรือเครื่องดื่มต่าง ๆก็มีให้เลือกกันจนตาลายเช่นกัน ทั้งกาแฟมียี่ห้อชนิดแบรนด์นอกหรือแบรนด์ไทยมีให้เลือกตามใจ หรือจะกาแฟท้องถิ่นแบบกาแฟคั่วกลิ่นหอมแบบบ้านๆก็มีให้เลือกกัน
ใครมากับแฟนก็คงอิ่มอกอิ่มใจ คุยกันกระหนุงกระหนิง ไปด้วยเพลินๆ หากเป็นวัยรุ่นหน่อยก็อาจจะข้ามฟากไปฝั่งท่ามหาราชก็ยังได้(ฝั่งธรรมศาสตร์) เพราะที่นั่นก็ชิลๆแบบเท่ๆได้หลายแบบ เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง แต่ในสายตาผมนั้นหากจะหาของกินแบบสีสวย ไม่บันยะบันยัง ชนิดคุ้มค่าเงินแล้วละก็ต้องวังหลังเป็นหลัก
ส่วนคนที่มาคนเดียวก็รักตัวเองได้ครับ เพราะเท่ากับได้พักผ่อน ได้เลือกดูของ ได้กิน ได้เพลิน แถมยังได้เดินไปไหว้พระหรือจะนั่งเรือย้อนกลับไปไหว้พระที่วัดอรุณฯก็ยังได้ แต่บางคนปักหลักกินกันที่วังหลังก็แทบไม่มีแรงเดินกันแล้วเพราะที่นั่นถือเป็นแหล่งกินฟินสุดๆไปซะแล้วสำหรับคนเมืองกรุง
เขียนมาซะยืดยาว กลัวคนอ่านจะเบื่อเหมือนกัน...แต่ผมว่า ถ้าอยากรักตัวเองก็พาตัวเองไปเที่ยวซะบ้าง ทริปง่ายๆล่องเจ้าพระยาพาไปกินวังหลังแบบนี้รับรองว่าผ่อนคลายหายเหนื่อยแน่นอน
เขียนมาแบบนี้แล้วจะมีใครอยากไปล่องเจ้าพระยาพากันกินอะไรที่วังหลังกับผมหรือเปล่าละเนี่ย?
Pete@(hand)somewhere