บ่ายแก่ๆ...อากาศร้อนจัด...ผมคิดว่าไอศกรีมสักถ้วยกับกาแฟขมๆสักแก้วคงเข้ากันได้ดี อย่างน้อยความหวานของไอศกรีมผสมกับความเย็นที่ลงตัวคงทำให้กระเพาะของผมเซย์ไฮกับกาแฟขมๆที่ร้อนได้ที่เกิดการผสมผสานกันแบบละมุนละม่อมจนทำให้สามารถกลับไปทำงานได้อย่างมีความสุขในช่วงที่บ่ายจะแก่กว่านั้น
สาวใหญ่และคงเป็นสาวสวยสองคนที่นั่งโต๊ะหน้าผมคุยกันเสียงดังพอควร...จับใจความได้ว่าคุณเธอทั้งคู่น่าจะยังเป็นโสดกันอยู่และคงคุยกันสารพัดเรื่องก่อนที่จะไปจบลงที่เรื่องความรัก...ตอนนั้นบังเอิญได้ยินเต็มๆว่า “เมย์จ๊ะ ชั้นเบื่อความรักเต็มแก่แล้ว จริงแล้วเข็ดตั้งแต่ตอนอายุ 25 แล้ว พออกหักก็เลยเกลียดผู้ชายทั้งโลกไปเลย...ใครมาจีบก็ไม่เอาแล้ว”
“เหมือนเค้าเลยต๊ะเอง...พอพ่อไอ้หนูมันไปมีเมียน้อยเค้าก็สาปส่งผู้ชาย ตอนนี้เลยคิดว่าผู้ชายทั้งโลกมันก็คงแบบเดียวกันนั่นแหละ...มักมาก มีหนึ่งแล้วต้องมีสองสามสี่ห้าไปเรื่อย ๆ...ตอนนี้เค้าก็เลยปิดประตูลงกลอนเด็ดขาด...ต่อให้เหงาเท่าไหร่ก็ไม่สนใจผู้ชายอีกแล้ว...เชอะ” เธอพูดจบก็เชิดไปทั่ว พอเห็นผมกำลังมองอยู่ก็เชิดสูงขึ้นไปอีก
ผมเกือบตักไอติมเข้าจมูกแล้ว ดีว่าหยุดกลืนน้ำลายแล้วเปลี่ยนโฟกัสจากใบหน้าของหล่อนผู้พูดแต่ไปเล็งที่ช้อนไอศกรีมแทน ก็เลยรอดพ้นการทิ่มช้อนเข้ารูจมูกตัวเองได้หวุดหวิด
จริง ๆแล้วสองสาวใหญ่คู่นั้นก็น่ารักน่าชังในสายตาผม...จะบอกว่าสเป๊กก็คงได้...ไม่รู้เป็นไงตอนนี้ดันเผลอกากบาทให้กับสาวใหญ่ไปซะหลายสิบเปอร์เซ็นต์ นี่ถ้าให้ลงคะแนนกาได้อีกก็จะกาสาวใหญ่อีกหลายๆรอบ และแม้จะเห็นเธอยิ้มให้ผมในขณะที่ผมยิ้มแหยๆให้เธอก็ตาม แต่ผมก็ยังก้ำกึ่งอยู่ว่าจะเลือกกินไอศกรีมดีหรือว่าจะจิบกาแฟซะก่อน เอ๊ย ไม่ใช่ ไม่รู้จะยิ้มให้สาวคนไหนกันแน่ ลงท้ายก็เลยเขินๆกันไป
ผมมองลอดกระจกร้านไอศกรีมขึ้นไปบนท้องฟ้า ... เห็นก้อนเมฆน้อยใหญ่ลอยไปมาไม่มีหยุด...บางทีเมฆขาวๆเป็นปุยเหล่านั้นคงกำลังบอกว่า “จะไปเอาอะไรแน่นอนกับชีวิต...ขนาดก้อนเมฆยังไม่เคยหยุดนิ่ง หรือมีขนาดซ้ำกันเป๊ะๆ เลย อีกทั้งมันลอยมาแล้วก็ไม่รู้ลอยไปไหน...นับประสาอะไรกับชีวิตมนุษย์ที่คงต้องเปลี่ยนไปตามธรรมชาติเสมอ”
ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติ เราก็คงอยู่ในโลกได้อย่างมีความสุขมากขึ้น...ความรัก ความสุข ชื่อเสียง เงินทอง หน้าที่ การงาน ล้วนเป็นสิ่งที่เปลี่ยนไปไม่ต่างจากก้อนเมฆ.... แม้แต่ชีวิตของเราเองเรายังรักษามันเอาไว้ตลอดกาลนานไม่ได้ แล้วความรักเราจะให้มันอยู่กับเราตลอดชาติได้หรือไม่?
ผมคิดว่าเห็นสัจธรรมจากก้อนเมฆแล้ว ก็เลยจะหันไปมองสองสาวใหญ่ที่น่ารักคู่นั้น...
อ้าว...เธอหายไปแล้ว ไม่รู้หายไปตอนที่ผมกำลังดูก้อนเมฆเพลินๆหรือเปล่า?
แบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่า “หายเข้ากลีบเมฆ”
ว่าแล้วก็เดินเหงาๆออกจากร้านไอศกรีมแห่งนั้น
ผมขำตัวเอง...ก่อนจะมองก้อนเมฆอีกครั้ง
คราวนี้....ได้เรื่องเลย..... “แพร่ด” นกพิราบจากไหนไม่รู้ปล่อยบอมบ์ลงกลางหน้าผากพอดี
....ใครมีทิชชู...ช่วยส่งมาให้ผมสักแผ่นครับ
Pete@(hand)somewhere