ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมทิ้งความวุ่นวายที่กรุงเทพไว้ข้างหลังแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ริมอ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่งที่ห่างเมืองหลวงแค่พอขับรถถึงได้ไม่ยาก
อ่างเก็บน้ำที่ว่านั้นสวยสะเด็ด แม้หน้าร้อนตับแลบแบบนั้นยังไม่อาจทำลายความงดงามของระลอกน้ำพลิ้ว ... ลมเย็นๆ... เสียงออดอ้อนของลมพัดล้อใบไม้ และ เสียงของผู้คนที่เต็มไปด้วยความสุขและความหวังในช่วงปีใหม่สไตล์ไทยโบราณแบบนั้น
เพื่อนแก๊งใหญ่ของผมทยอยกันมาถึงจุดนัดหมาย เรามีแพลนกันว่าจะตั้งเต็นท์กันริมน้ำ บางทีก็จะเข้าป่าใกล้ๆเพื่อพาเด็กๆลูกๆหลานๆเข้าไปชมความบริสุทธิ์ของธรรมชาติแบบที่หาไม่ค่อยได้เต็มที่นักในเมืองกรุง พูดง่ายๆว่าอยากทำตัวเป็นคนใกล้ชิดธรรมชาติกับเขาบ้าง
เรากินอาหารกันแบบง่ายๆ ใครมีเตาแก๊สแบบกระป๋องก็งัดออกมาใช้กัน บางคนก็ปรุงอาหารกันแบบสไตล์ใครสไตล์มัน ส่วนผมทำอะไรไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพายนักก็อาศัยความเป็นนักกินมืออาชีพช่วยทำให้อาหารเบื้องหน้าว่างเปล่าตามถนัด บางทีก็เผลอดื่มแจ็ค ดาเนียลรวดเดียวหมดแก้วจนต้องไปเติมกันใหม่บ่อยๆ
ระหว่างนั่งกินนั่งคุยนั่งดื่มกันไปเรื่อยๆ ก็ได้ยินหนุ่มๆสาวๆรวมทั้งคนสูงวัยคุยกันสารพัดเรื่อง พอตกดึกๆก็เหมือนจะฟ้องพระจันทร์กับก้อนเมฆในเรื่องของความรักที่ผิดหวังบ้าง ผิดสเป็คบ้าง บางรายถึงขั้นอยากจะโดดน้ำประชดความรักให้มันกลายเป็นเงือกมรณะเฝ้าอ่างเก็บน้ำก็มี
สรุปคือ ไม่ว่าวัยไหน ...สาวน้อย สาวใหญ่ หนุ่มกลาง หนุ่มน้อย หรือวัยใกล้จะเฝ้าพระเจ้า ต่างก็พบเจอเรื่องรักคุด ตุ๊ดเมิน(อันนี้ไม่ใช่ ว่าเกินไปหน่อย) สะเทิ้นอายเรื่องโดนคนมาจีบหรือไปจีบเขาก่อนให้วุ่นกันไปหมด และลงท้ายก็ไม่ค่อยสมหวังกันทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เป็นอมตะก็คือ “ลืมรักในอดีตไม่ลง”
“พี่พีทขา...หนูอยากรู้ว่าพี่มีวิธีลืมอดีตยังไงคะ”สาวใหญ่คนหนึ่ง สวยสะคราญซะด้วย ถามผมพลางทำตาหวานซึ้งยิ่งกว่าพระจันทร์สองดวงที่แข่งกันอยู่บนฟ้าดวงหนึ่งกับอีกดวงหนึ่งสะท้อนอยู่ในน้ำ
ผมไม่ได้เก่งขนาดลืมอดีตไม่ลง ทุกวันนี้ยังมีภาพต่างๆซ้อนกันชัดเจนในความทรงจำเสมอ...โธ่...ขนาดแก่ป่านนี้แล้วยังจำได้ว่าตอนเด็กๆเคยโดนแม่ตีมือตอนที่กินขนมโดยไม่ล้างมือ แล้วถ้าบอกว่าจำความรักในอดีตไม่ได้ก็เหมือนโกหกกันหน้าตายละมั้ง
ผมบอกสาวใหญ่หน้าหวานรายนั้นไปหลังจากจิบออน เดอะ ร็อคเข้าไปหมดแก้วช้าๆพลางประสานตาอย่างมีความหมายว่า... ผมเลือกจะมองว่า ผมทุกข์อย่างไรจากสัมพันธภาพของความรักมากกว่า... ตอนนั้นยกตัวอย่างว่า แม้ว่าเธอคนนั้นจะสวยหยาดเยิ้มเพียงใด เร่าร้อนเหมือนสาวละตินบนเตียงขนาดไหน หรือร่ำรวยไฮโซแบบใด แต่ถ้าคนเราเวลาทุกข์ใจกันจนต้องเลิกจากกันก็ให้นึกถึงสิ่งที่เราเป็นทุกข์นั่นแหละ เช่น ถ้าเธอเจ้าชู้เหลือเกินคบทีละหลายๆคนโดยมีผมเป็นหนึ่งในตัวเลือกผมก็ต้องมองให้ออกว่าการอยู่ในสภาพแบบนั้นมันทุกข์ใจขนาดไหน ต้องมองให้ออก ไม่ใช่มองแต่ข้อดี
บางทีการที่เรารู้ว่า “ทุกข์ขนาดไหน”จากการคบใครคนหนึ่งย่อมจะทำให้มองความรัก ความหลง หรือการเลิกราได้ชัดเจนจนกระทั่งสามารถจะตัดใจได้ในที่สุด แต่ถ้าเรามองแต่แง่ดีๆมากเกินไปจนลืมมองความเป็นจริง ผลสุดท้ายก็ต้องทุกข์อีกรอบ หรือหลายๆรอบจนได้
คำตอบของผมอาจทำให้สาวใหญ่รายนั้นงงๆ ไปบ้าง ไม่รู้เธอจะมองเห็นทุกข์ในคำพูดของผมหรือเปล่า หากแต่เธอทิ้งท้ายเอาไว้น่าคิด
“ช่วยทำให้ทุกข์จนเลิกคิดถึงคุณบ้างสิคะ?” เธอว่างั้น
ส่วนผม.... “ตกใจตื่น” ขึ้นมากลางเต็นท์
“โธ่...ฝันร้ายอีกแล้วหรือเรา นึกว่าจะอร่อยกับของจริงซะอีก...ตูหนอตู ...ทุกข์อีกแล้ว ผสม “กรรม” เข้าไปอีก 555”ผมพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะหลับต่อ
ขอให้ฝันถึงเธอคนนั้นอีกรอบ...ก็จะเป็นพระคุณยิ่ง...
Pete@(hand)somewhere