วานนี้เล่าเรื่องอาบอบนวด ที่คุณแม่อยากรู้แต่ไม่กล้าถามใคร วันนี้ขอลดเกรด แต่เป็นตำนานของ คุณพ่อบ้าน โดย เฉพาะ คุณพ่อบ้าน ที่เคยผ่านรั้ว ซี๊ยู สามย่านเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน รุ่นพี่มักจะต้องลากคอมาถามว่า
"เปิดซิงหรือยัง"
แล้วก็รับน้องที่ไม่สยองขวัญ แต่ สยิวแทนด้วยการไป โรงแรมศรีทอง ซอยพญานาค แม่ๆ นึกไม่ออกก็ นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีราชเทวี ซอยข้างๆ โรงแรมเอเชีย ตรงเข้าไปไม่กี่ร้อยเมตร นั่นแหละเป็นที่กล่าวขวัญของ นักศึกษาหนุ่มๆ ในสมัยก่อน
ทุกคนเรียกมันว่า ซ่อง
สถานที่ทุกคนรังเกียจ มองสภาพห้องเก่า ๆ โทรมๆ มีแมงสาบ เอ้ย แมงดา หน้าตาโหดๆ มี ผู้หญิงหากิน สภาพแก่ๆ
ซ่อง ที่ เขาเรียกในสมัยก่อน มี มากมายในกรุงเทพฯ
สังเกตุได้ตามโรงแรมมีตัวเลขทั้งหลาย เช่นย่านวิสุทธิกษัตริย์ เพชรบุรีตัดใหม่ เป็นต้น
จำได้ว่า ผมรู้จัก คำว่าซ่องแบบมีตัวตน คือ ตอน ม.3 ที่มีรุ่นพี่ ในโรงเรียน กลุ่มหนึ่งหนีไปเที่ยว ฮันนี่บาร์ ในศรีราชาแล้วโดนโรงเรียนจับได้ โทษคือ โกนหัวประจาน แล้วหวดซ้ำอีกหกที ให้ผู้ปกครอง มา เซ็นต์รับทราบอีก อายเขาไปทั่ว หัวโจกตอนนี้เป็น ผู้กำกับคนหนึ่งใน กองปราบแล้ว ไม่บอกว่าใคร
ไม่มีใครกล้าไปอีกเลยหรือเดินเฉียดกรายเข้าไปที่บาร์แห่งนี้ จน เรียนจบ ม.6 เรียนมหาวิทยาลัย
เด็กคณะวิทย์ยอมพลีกาย เอ้ยพลีชีวิตเพื่อการทดลอง เรียนหนังสืออย่างเดียว สมัยนั้นผมเรียน วิทย์เคมี ยังไม่ได้ย้ายมาเรียนคอม วันๆ เอาแต่อ่านหนังสือ
"เฮ้ย เอ็งเคยเปิดซิงยังวะ"เสียงพี่เจี๊ยบรุ่นพี่ผมถาม
"ไม่เคยพี่ ไม่กล้าหรอก " ผมตอบ โอยตอนนั้นเด็กดีครับ
"เออ ดี เดี๋ยวเสาร์นี้ รวมพลฟุ้งมาด้วยใช่ไหม" พี่เขาพูดถึงเย็นวันเสาร์เราจะรวม รุ่นพี่น้อง ศิษย์เก่า อัสสัมกันที่ อาพาร์ทเม้นท์ที่เราเช่ากันยกชั้นเลย แล้วก็พูดถึงเพื่อน ผมที่ เรียน นายร้อย สมัยนั้น ยังอยู่ราชดำเนินนอกอยู่ ก็ จะมารวมกันหมด
วันเสาร์ วันที่ รอคอยมาถึง
พี่เจี๊ยบหัวโจก อดีต หนึ่งใน ทีมที่เคยโดนโกนหัว(ไม่มีเสียบประจาน) พาพวกผม ทั้งหลายขึ้นท้ายรถกระบะ ตรงลิ่ว มา โรงแรม ย่าน เพชรบุรีตัดใหม่ สมัยนั้นยังเป็นยุคบุกเบิกของ โรงแรมสยาม แต่เป้าหมายเราคือ รร 39 (เจ๊งไปแล้ว)
ทุกคน เดินเงียบใจสั่น เพราะไม่เคย กันเลย อะไรจะเกิด
"เอ้าร้องเพลงหน่อย คึกคักหน่อยพวกมรึง"
"เด็กเอ๋ยเด็กดีต้องทำหน้าที่สิบอย่างเด้วยกัน
หนึ่ง ขึ้นบันได สองตามกันไป สามถามว่าใคร สี่ ......... หรี่ใช่ไหม ห้าตอบว่าใช่ .........................เซนเซอร์..............เก้าก็จ่ายเงินไป สิบจะกลับมาใหม่ เอ้า เด็กเอ๋ยเด็กดี......................
ทุกคนโดนให้เข้ามาอยู่ในห้องก็ห้องนอนเราดีๆ นี่แหละครับ
เก็บเงินคนละสามร้อยบาท สมัยนั้น
"อย่างเดียว ครับ สองอย่างให้พวกมันจ่ายกันเอง" เสียงพี่เจี๊ยบบอกพนักงานโรงแรม
แม่ๆ คงสงสัย ว่าอะไรกันหรืออย่างเดียวสองอย่าง อย่างเดียวคือ อึ๊บอย่างเดียว ถ้าสองอย่างคือมี การใช้ปากด้วย เพิ่มอีก สี่สิบบาท 5555 เวรกรรม ทำไมมันถูกแบบนี้
พนักงานโรงแรมก็แมงดา นี่แหละ ตัวเท่าๆ กับพวกผม ถ้าไม่มี เครื่องทุนแรงให้ต่อยกัน ก็ว่า สบายๆ เลย พาผู้หญิง หน้าตา บอกได้ว่า ตจว เลยละ เข้ามา ชุดแรกสิบคน
"เลือกเลยน้องๆ"
เงียบ ไม่มีใครกล้าเลือกเพราะเคยชินกับการ จีบสาว จะจับมือเขาก็ยังไม่กล้ากลัวโดนตบ เห็นไหมหนุ่มสมัยก่อน น่ารักแบบไหน เกรงใจสาว ๆ
สุดท้าย พี่เจี๊ยบ จัดการเลย เลือกสาวให้แต่ละคน พร้อมกับแจกอุปกรณ์ ป้องกันโรค ถุงยางอนามัย
"เฮ้ย เอาผลงานมาให้ดูด้วยนะ ถ้าไม่มีผลงาน ถูกถีบ"
รุ่นพี่ที่ถือคติ ว่ารุ่นพี่ที่เลวที่สุด ก็ดีกว่ารุ่นน้องที่ดีที่สุด สั่งการ
ทุกคนแยกย้ายไป
ห้องเก่า แต่ผ้าปูที่นอนใหม่ จำได้ว่า จ้องหน้ากันเงียบ เพราะ เคยแต่ดูรูปสาวเปลือยเท่านั้น แต่ มากกว่านั้นไม่เคย ตายแล้ว เกิดมาไม่เคยต้องมือหญิงใด วันนี้ จะเป็นไงหว่า
"พี่ไม่เคยเลยหรือ เป็นไปได้ไง อายุขนาดนี้แล้ว"
เธอชวนคุยแบบผมอึ้งเลย เพราะ อายเหมือนกัน ตอนนั้นก็อายุ 19-20 ปีแล้ว
"ครับ" ผมตอบ
"เปลี่ยนเสื้อผ้าซิ เดี๋ยวหนูทำให้ แต่ ขอเพิ่มอีกห้าสิบบาทนะ" มีงี้ด้วยค่ายกครู
แล้วก็ ทุกอย่างไปตามครรลอง
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป บรรดาน้องใหม่ ไร้สาระบริสุทธิ์ ต้องการโชว์ผลงานที่หน้าพี่เจี๊ยบว่า เรียบร้อยหมด
"สามวันถ้ามีแสบๆ คัน บอกนะว้อยจะพาไปฉีดยา" แหมชำนาญเลยนะพี่กรู ฉีดยาจนหมอเหม็นหน้าแล้วซิ
สมัยนี้สถานบริการมีมากมายไปหมด โรงแรมสยามยังเป็นตำนาน ให้กล่าวถึง กันตั้งแต่ปี 2528 จน ปิดฉากไปเมื่อ ไม่กี่ปีมานี้
แต่ผีขนุน คงเป็นตำนานรุ่น ปู่ย่าจนปัจจุบัน
นี่แหละสังคมไทย หาผู้หญิงขายตัวง่ายกว่าหาพระดีๆ ซักรูป