คนรักการอ่าน.....คือคนขี้เผือก แฮร่ ๆ อย่าเพิ่งทำหน้างั้นดิ่
เค้าหมายถึงคนชอบสอดรู้สอดเห็น ว๊ายตายแล้วใช้คำอะไรเนี่ย
ยิ้มก่อน ๆ เค้าหมายถึง อยากรู้อยากเห็น เป็นนิสัยที่ดีมากในคน
ที่รักที่จะเปิดกว้างและรับที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
เด็กช่างถาม คือ เด็กฉลาด แต่ไหงผู้ใหญ่ช่างถามกลายเป็นน่ารำคาญไปได้
น่าคิดเนอะ เมื่อเราคุยกันน้อยลง คำแปลกใหม่ก็น้อยลง คำถามแปลก ๆ ก็ไม่มี
ให้คุณต้องมาค้นหา ตอนเป็นนักเรียนครูมีการบ้านมีคำถามทุกวัน
ให้เราได้ค้นหาได้ค้นคว้าได้อ่าน อ่าน แล้วก็อ่าน แต่พอเลิกเรียน
เราก็เลิกเรียนกันจริงจัง ไม่ค้นคว้า ไม่หา ไม่อ่าน ข้อดีของคนขี้เผือก
คืออย่างน้อยก็ได้อ่าน ถึงแม้ปัจจุบันเราจะใช้การฟังซะส่วนมาก
(มือถือคนละเครื่อง หูฟังคนละเส้น เข้าสู่โหมดโลกของฉัน)
แต่เราก็เลือกที่จะฟังแค่สิ่งที่เราอยากฟัง ฟังแล้วก็จบผ่านเลยไป
ผิดกับการอ่าน เราสามารถกลับมาทบทวนความหมายที่ได้ผ่านตาเราไป
ได้อย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนเด็ก ๆ เคยเล่นเกมส่งสารกันมั้ย
คือให้คนรับสารคนแรกอ่านข้อความในกระดาษ แค่สั้น ๆ ประโยคนึง
แล้วบอกต่อกับคนที่ยืนต่อ ๆ กันไป น้อยครั้งที่จะพบว่าคนสุดท้ายที่ได้รับสารมา
จะบอกประโยคนั้นได้อย่างครบถ้วน บางครั้งเป็นคนละประโยคไปเลย
ร่ายมาซะยาว ไม่มีอะไรเลยเราแค่ อยากให้ทุกคนเป็นคนขี้เผือก
แค่นั้นเอง หันมาอ่านในสิ่งที่อยากรู้ แทนการฟังและเลือกที่จะจดจำ
เรื่องราวดี ๆ ไว้เพื่อบอกต่อ ๆ กัน เพียงแค่ให้คนอื่นได้อยากรู้
และค้นหามันไปพร้อมกับเราเท่านั้น.....เท่านั้นเอง
รักคนขี้เผือก ทุกคนค่ะ ^^