เป็นอีกหนึ่งวันทำงานที่ไม่อยากทำงานเลยจริง ๆ
ไม่ใช่เพราะความขี้เกียจ...แต่มันเป็นวันที่หดหู่หัวใจ
กับหลาย ๆ ภาพที่ได้เห็นในวันคลินิกเบาหวาน - ความดัน
จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่พบว่าผู้ป่วยความดันโลหิตสูงเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกเดือน
นี่นับเฉพาะคนที่เข้าระบบการรักษาแล้วนะ ยังไม่รวมคนที่ไม่เคยตรวจร่างกาย
และคนที่ตรวจพบแล้วแต่ไม่แสดงอาการอะไรเลยไม่รับการรักษา
หรือแม้แต่แสดงอาการแล้วแต่เรื่องปากท้องสำคัญกว่าสุขภาพก็ตามที
แต่ความน่ารักในคลินิกก็ยังมีให้เห็น เดือนนึงจะเจอกันสักครั้งนึง
ก็จะมีเรื่องคุยกันได้อย่างน่ารักเสมอ พามากีโรค??? วันนี้สอบผ่านมั้ย
(ความดันปกติหรือเปล่า) ต้องมาซ่อมมั้ย (คือหมอนัดมาวัดซ้ำอีกถ้าความดันสูง)
โห....หมอใจดีให้ขนมเป็นหอบ (ยาที่ได้กันแต่ละครั้งคือหนึ่งเดือนซึ่งบางคนเยอะมากจริงๆ)
ก็พาให้มีเสียงหัวเราะเฮฮาไปได้ครั้ง ๆ หนึ่งของเดือนก่อนจะแยกย้ายกันไปสู่วันปกติ
แต่อีกฟากหนึ่งคือผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่เส้นเลือดสมองได้แตกไป
จนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง....ต้องไปวัดความดันให้ที่บ้านและพบว่า
ผู้สูงอายุเหล่านั้นกลับถูกทิ้งให้อยู่บ้านเพียงลำพัง บางคนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย
ต้องนอนจมอยู่กับปัสสาวะ อุจจาระเป็นที่น่าเวทนานัก นึก ๆ ก็ย้อนไปคราวครั้งเรายังเด็ก
เราอึเราฉี่ พ่อแม่รีบเช็ดล้งทำความสะอาดให้เราคงความน่ารัก ความหอมน่าสัมผัสเสมอ
บางคนคงนึกถึงคำที่ว่าพ่อแม่คนเดียวเลี้ยงลูกเป็นสิบคนได้ แต่ลูก ๆ เป็นสิบทำไมปล่อยทิ้งให้พ่อแม่อยู่ในสภาพเช่นนี้ ลองคิดง่าย ๆ นะสมมุติว่าถ้ามีลูกคนนึงที่ต้องอยู่กับพ่อแม่คนนี้
และเค้าต้องเป็นคนที่ต้องหาค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน เพราะทุกวันนี้สารพัดค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายประจำซึ่งก็น่าเห็นใจหากต้องดำเนินชีวิตให้ผ่านไปท่ามกลางคำแช่งด่าว่าไม่ดูแลพ่อแม่พิการ เพราะเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์แบบนั้น เพราะงั้นจึงไม่ควรไปตัดสินใครคนใดคนหนึ่งก่อนที่เราจะได้สัมผัสเองจริง ๆ นึกย้อนไปอีกก็ไม่ต่างอะไรกับคนไข้ที่มารับการรักษาแต่จู่ ๆ ขาดการรักษาไป ถึงแม้ค่ารักษาไม่ต้องเสีย แต่เค้าก็ต้องมีค่าเดินทาง และต้องเสียรายได้ในวันที่ต้องมาหาหมอก็ไม่แปลกที่เค้าจะขาดการรักษาไป พอมีอาการกลับมารักษาอีกครั้งกลับถูกหมอว่าเอาอีก หดหู่มั้ยล่ะชีวิต คิดไปคิดมาก็อย่างให้มีการทำพินัยกรรมชีวิตได้จริงหนอ
คือ ให้เขียนเป็นพินัยกรรมไว้ว่าหากวันได้ข้าพเจ้าป่วยไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม แล้วไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองในการทำกิจวัตรประจำวันใดได้เลย ไม่แม้แต่จะสามารถที่จะฆ่าตัวเองได้ด้วยแล้ว และหากมีชีวิตอู่ไปแค่ด้วยเครื่องช่วยหายใจ หรือเป็นภระของผู้อื่นแล้วให้ดำเนินการทำให้ข้าพเจ้าตายไปเสยเถิด อะไรแบบนี้ได้คงจะดี คงมีคนอีกไม่น้อยที่อยากทำแบบนี้
ไม่มีใครอยากนอนเป็นผัก ไม่มีใครอยากสร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้กับคนที่รักที่ต้องมาคอยดูแล ปฏิหาริย์ไม่มีจริง เมื่อไม่อยากป่วยจงรักษาสุขภาพ อย่าอ้างว่าไม่มีเวลา สุขภาพที่ดีขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิต กิน....เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์และสะอาด พักผ่อน.....นอนหลับให้เพียงพอ ขับถ่าย...ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา เคลื่อนไหว....เคลื่อนไหวร่างกายให้ถูกท่า และไม่หนักหนาเกินไป สมดุลน้ำในร่างกายต้องเหมาะสม ที่สำคัญจิตใจต้องผ่องใสเสมอ มีความสุขกับทุก ๆ เรื่อง ทุก ๆ วัน ถ้ามันหนักหนาก็แค่....เดี๋ยวมันก็ผ่านไป สู้ สู้ ^^