เที่ยงกว่าแล้ว ผมหิวจนตาลาย มองซ้ายมองขวาอยากจะงับแขนสาวๆที่อยู่ทางซ้าย ขวา หน้า หลังก็เกรงใจกลัวพวกหล่อนจะหาว่าผมซาดิสม์ แต่เอาเถอะ...ยังไงๆผมก็เดินตามพวกหล่อนไปเพราะเธอชวนไปกินอาหารที่ร้านเปิดใหม่ไม่ไกลจากออฟฟิซนัก
ที่จริงก็ไม่ใช่มีแค่หล่อนๆหรอกครับที่ผมเดินตาม ยังมีผู้ชายหลายคนที่มีทั้งมาดแมนและมาดตุ้งติ้งตามสมัยนิยมที่เดินจับกลุ่มตามๆกันไปโดยมีเป้าหมายเดียวกัน...ก็ร้านที่ว่าอร่อยนักหนามาเปิดแฟรนไชน์กันแถวๆนั้น...
พอเดินไปถึงร้านนั้นผมแทบเป็นลม เพราะคำนวณดูคร่าวๆแล้วคาดว่าวันนี้ลูกค้าล้นหลามเหลือเกิน แถมกลิ่นอาหารตลบอบอวลอย่างนั้นด้วยแล้วใครๆก็คงอยากลิ้มลอง ผมคิดดูแล้วถ้าเข้าไปสั่งอาหารจานเด็ดที่ว่านั้นโดยไล่ไปตามคิวเบ็ดเสร็จกว่าจะได้กินก็คงนาน
“อ้าว พี่ไม่กินแล้วเหรอคะ อุตส่าห์ชวน”สาววัยเริ่มทำงานคนหนึ่งฉุดแขนผม (แน่นอนทำให้ผมรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาติดหมัด)ไม่รู้ว่าเพราะอยากให้ผมร่วมวงคุยด้วยเพราะกำลังคุยกันติดลมหรือจะให้ผมช่วยเขียน Thesis ฉบับภาคภาษาอังกฤษก็ไม่แน่ใจนัก
เอาเป็นว่าคำทัดทานของเธอไม่เป็นผล ...แฮ่ม...รวมทั้งกลิ่นฟีโรโมนของสาวๆทั้งหมดนั้นก็คงไม่ทำให้ผมเปลี่ยนใจในการเดินออกจากร้านที่ว่าไปหาอะไรกินแบบเร่งด่วน เพราะกลัวว่าบ่ายสองมีนัดสำคัญแล้วจะไปไม่ทัน ไหนจะกิน ไหนจะรถติด ไหนจะสารพัดอย่าง
สุดท้ายผมไปเลือกเมนูง่ายๆจากร้านเซเว่น(ก็เซเว่นอีเลฟเว่นนั่นแหละ ไม่ใช่เซเว่นเดย์แอดเวนตีสนะครับ) หอบหิ้วเอาอกไก่ย่างเตาถ่าน กับ สเต๊กไก่สูตรอะไรไม่รู้มาคู่กัน ให้ทางร้านอบเวฟ หั่นเป็นชิ้นราดซอสใส่มาแถมไม้จิ้มมาด้วย จากนั้นก็ไม่ลืมเครื่องดื่มจุกจิกนิดหน่อยกับกาแฟลาเต้ของโปรด เบ็ดเสร็จจ่ายไปร้อยกว่าๆแต่ใช้เวลาสั่งของจนกว่าได้ของแค่ไม่ถึง 5 นาที
จากนั้นผมก็ลากสังขารตัวเองมาที่มุมที่ทางร้านเซเว่นฯจัดเป็นพื้นที่กินแบบด่วนๆแล้วมองออกไปข้างนอก ผมกินไปก็มองเห็นเพื่อนๆที่ออฟฟิซนั่งรออาหารไปเรื่อยๆ ...พวกเขารอมื้อเด็ดกันอยู่ แต่ผมก็กินสะเด็ดจากเมนูง่ายๆชนิดท่วมโปรตีนจนอิ่ม ตามด้วยซดลาเต้อุ่นๆหมดถ้วย ต่อด้วยน้ำเย็นชื่นใจ ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีผมก็เดินตัวปลิวออกจากเซเว่นฯแล้ว
พอเดินผ่านแก๊งหนุ่มสาวในร้าน พวกเขายิ้มให้เจื่อนๆส่วนผมยิ้มแบบอารมณ์ดีเพราะอิ่มแล้ว และได้แต่หวังว่าเพื่อนๆคงได้อร่อยกับมื้อเด็ดก่อนบ่ายโมงเพื่อจะได้กลับเข้าไปทำงานที่ออฟฟิซได้ทัน
วันนี้ผมได้แต่คิดว่า...บางทีอะไรที่ง่ายๆเบ็ดเสร็จมันก็อยู่แค่เอื้อม และถ้าอยู่ในโหมดที่มีเวลาจำกัดการใช้ตัวเลือกในออปชั่นพิเศษก็ช่วยทำให้ประหยัดเวลาได้ดี แต่ถ้ามีเวลายาวๆนานๆ ผมอาจจะไปนั่งรอในร้านอาหารแบบเพื่อนๆแก๊งหนุ่มสาวก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ผมอิ่มท้องแล้วและไม่ต้องห่วงเรื่องเวลา...บางทีเมื่อเอาเรื่องนี้ไปเทียบกับความรักที่ใครๆโหยหากัน...การรอคอยนานๆในร้านอาหารเพื่อรอการปรุงอาหารอย่างละเมียดและแสนอ้อยสร้อยนั้นคงคล้ายกับการสร้างความสัมพันธ์กับใครแบบหวานละมุนเต็มไปด้วยรายละเอียดและคงให้ผลลัพธ์ที่ดีและสวยงาม แต่บางทีถ้าชีวิตถูกผลักเข้าสู่โหมดที่แทบไม่มีตัวเลือกการใช้เวลาสั้นๆแต่มีความหมายหากแต่ต้อง “เลือกเป็น” ก็อาจถูกปรับมาใช้กับชีวิตในบางจังหวะได้ด้วยเช่นกัน
เรื่องแบบนี้ไม่มีใครผิดหรือถูก...มันขึ้นอยู่กับ Destiny มั้ง?
Pete@(hand)somewhere