Login
-
 view (215 )     comment (3 )     last update : 6/9/2562 18:27:17
pup
แค่อยาก....เล่า ^^

ตลอดระยะเวลา ๑๘ ปีที่ผ่านมากับชีวิตการทำงานของฉัน ณ พื้นที่ อำเภอสวนผึ้ง

เริ่มต้น ณ วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๔ หลังจากจบการศึกษา ระดับ ประกาศนียบัตร

สาธารณสุขศาสตร์ (สาธารณสุขชุมชน) ก้าวแรกที่คิด คือ ระยะเวลาเรียน

เพียงแค่ ๒ ปีฉันจะทำอะไรได้

 

พื้นที่อำเภอสวนผึ้งก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้จักมันเลย มีพื้นที่ให้เลือก ๓ อำเภอ ในตอนนั้น

คิดแต่เพียงว่าไม่อยากทำงานใกล้บ้าน  อยากเปลี่ยนบรรยากาศหาอะไรแปลก ๆ ทำดูบ้าง

พื้นที่ห่างไกลที่สุดนี่แหล่ะที่ฉันเลือกที่จะไป  เมื่อก่อนความเข้าใจของฉัน คือ หมอที่ชาวบ้าน

เรียกนั้น  ก็คงจะเหมือนหมอที่อยู่ตาม โรงพยาบาลทั่วไปนั่นแหล่ะ  จนได้รู้ก็ตอน

หนีบใบประกาศแล้วมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ในสถานที่ ๆ ถูกเรียกว่าสถานีอนามัย

แล้วมีชาวบ้านมารับการรักษาแล้วเรียกเราว่า “หมอ” นี่เอง

สถานีอนามัยแรกที่ได้ไปอยู่เป็นอนามัยเล็ก ๆ ตั้งอยู่ชายแดนเลยทีเดียว 

รับผิดชอบเพียง ๒ หมู่บ้านแต่กินพื้นที่กว้างมาก  บางกลุ่มบ้านรถยนต์ธรรมดา

ไม่สามารถเข้าไปถึงได้ต้องใช้ผู้ชำนาญเส้นทางจริง ๆ เท่านั้น

แต่ระยะเวลาการทำงานที่นั่นแค่เพียงปีเดียว  ฉันสามารถทำความรู้จักชาวบ้าน

ได้ทุกหลังคาเรือน  ไม่ว่าหน่วยงานไหนจะเข้ามาหาบ้านใครฉันสามารถพาไปได้

ทุกหลังคา ฉันมีความสุขกับการทำงานที่นี่มากแต่แล้วก็มีเหตุให้ต้องย้ายไปที่ใหม่

แต่ยังคงอยู่ในอำเภอสวนผึ้ง

สถานีอนามัยแห่งที่สองนี้เป็นสถานีอนามัยประจำตำบลขนาดใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นสถานีอนามัย

ประจำอำเภอเลยก็ว่าได้  ตั้งอยู่ในตัวอำเภอ รับผิดชอบ ๔ หมู่บ้าน  ระยะเวลา ๑๐ ปี

กับการทำงานที่นี่ช่างแตกต่างกับพื้นที่เดิมมากนัก  ทั้ง ๆ ที่หน้างานก็ ส่งเสริมฯ  ป้องกัน 

รักษาและฟื้นฟูสภาพเหมือนกัน ฉันมีหน้าที่รับผิดชอบหมู่บ้านครบทั้ง ๔ หมู่บ้านหมุนเวียนไป

ในแต่ละปี ทำให้ก็พอรู้ว่าบ้านใครอยู่ตรงไหนแต่ระยะเวลาที่ยาวนานไม่ได้ช่วยให้ฉันจำได้

ทุกหลังคาเรือนเหมือนตอนอยู่ที่แรก เหตุผลเพราะอะไรจนทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ได้ 

หรืออาจเป็นเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นชุมชนเมืองที่มีฐานะทางสังคมค่อนข้างเหลื่อมล้ำ

ทำให้บางบ้านเราไม่สามารถเข้าถึงได้เลยก็เป็นได้  ระยะเวลาที่อยู่ที่นี่มีความสุขกับการทำงาน

ตามสภาพ แต่คิดว่าความรู้ความสามารถที่มีคงไม่เพียงพอ ปี ๒๕๕๒ มีโอกาสได้สอบ

เพื่อไปเรียนพยาบาลจึงไม่รอช้า กลับมาพร้อมกับปริญญาพยาบาลศาสตร์บัณฑิต

อย่างเต็มภาคภูมิ และเป็นโอกาสดีที่ได้เรียนเวชปฏิบัติต่อเนื่องเลยทันที  พร้อม ๆ กับ

ความเปลี่ยนแปลงของสถานีอนามัยที่ถูกยกระดับให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล

ทั้ง ๆ ที่ คน  งาน  ของเท่าเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง  แต่ต้องต่อสู้กับความคาดหวัง

ของชาวบ้านที่เปลี่ยนไป  ชีวิตหมออนามัยอย่างฉันเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อต้อง

ย้ายที่ทำงานใหม่  ตามนโยบายเกลี่ยคนให้เหมาะกับงาน

สถานีอนามัยแห่งที่สาม  ที่กลับกลายเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตามนโยบาย

สร้างภาพของรัฐบาลหนึ่ง  แต่ก็รู้ในกมลสันดานเดิมก็สถานีอนามัยนั่นแหล่ะ  จริง ๆ

ฉันชอบคำว่าสถานีอนามัยมากกว่า  หรือเอาจริงชอบคำว่า "สุขศาลา" เดิม ๆ มากกว่า

แต่เกิดไม่ทันไง   ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ทำงานล่าสุดของฉันจนถึงทุกวันนี้  ด้วยเหตุผลที่ว่า

ตั้งอยู่ท่ามกลางศูนย์รวมแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอสวนผึ้ง  ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก 

ธารน้ำร้อน  สวนพฤกษศาสตร์ธรรมชาติวิทยาฯ  จึงจำเป็นต้องมีพยาบาลวิชาชีพมาประจำการ

เพื่อดูแลให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ตลอดระยะเวลา ๓ – ๔ ปีที่ผ่านมาได้หลั่งไหลเข้ามา

เป็นจำนวนมาก “ไปไหน...ไปสวนผึ้ง  ไปทำไม.... ไปดูแกะ” ก็ไม่รู้เป็นแกะไปได้ยังไง??? 

แต่ฉันพบว่าพื้นที่ในความรับผิดชอบเพียงแค่ ๑ หมู่บ้าน  การทำงานช่างแตกต่างจากสองแห่ง

ที่ได้ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง  ระยะเวลา ๖ ปีที่ทำงานที่นี่ฉันกลับมีความรู้สึกว่าฉันไม่รู้จักใครเลย???

คงเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกลุกล้ำด้วยรีสอร์ท  จนแทบไม่เหลือบ้านของคนในพื้นที่ 

ฉันมีความรู้สึกว่าการทำงานของฉันมันช่างยากลำบากขึ้นทุกวัน  แต่เป็นความลำบาก

ที่สนุกสนานเสมอ ไว้จะมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ ^^

ความคิดเห็น
ผู้แสดงความคิดเห็น

ประทับใจกับเรื่องราวทั้งหมดที่ถ่ายทอดมาให้อ่านครับ ... รู้สึกดีที่ได้อ่านเรื่องของใครก็ตามที่มีโอกาสได้รับใช้สังคมเช่นนี้ ดูเหมือนว่าแต่ละนาทีที่ผ่านไปนั้นอาชีพของใครคนหนึ่งสามารถทำประโยชน์ให้กับผู้คนได้เป็นจำนวนมากๆ ในขณะที่มีบางชีวิตปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่แยแส

หนึ่งนาทีของอาชีพที่เสี่ยงต่อการมีลมหายใจของใครนั้นค่อนข้างมีความหมายต่อสังคมมากๆครับ ยินดีที่ได้อ่านเรื่องราวที่เต็มไปด้วยการเสียสละในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ได้สะดวกสบายนัก แถมยังเสี่ยงต่อภัยมืด(โรคภัยไข้เจ็บตามชายแดน)ที่พร้อมเล่นงานทุกคนได้ตลอดเวลา

อาชีพแพทย์ พยาบาล ครู ทหาร หน่วยบรรเทาสารธรณภัย เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ตำรวจชายแดน พนักงานดับเพลิง และอีกหลายอาชีพที่ต้องช่วยเหลือผู้คนและสังคม (หลายอาชีพมากกว่านีแต่ผมยกตัวอย่างมาไม่ได้ทั้งหมด)คืออาชีพที่ผมขอ “คารวะ” ด้วยใจจริง เพราะพวกเขาเหล่านั้น “มีใจ” ที่จะช่วยสังคมให้มีคุณค่า มีชีวิต สามารถต่อลมหายใจได้โดยมีความหวังมากขึ้น

Pup อย่ารอช้าครับ หากมีเรื่องราวใน “ภาคต่อ” หรือ EP ที่เพิ่มมากขึ้นก็เอามาถ่ายทอดกัน เรื่องดีๆ เรื่องน่ารักของการช่วยเหลือกันและกันแบบนี้ผมขอติดเครดิตว่า “ยอดเยี่ยม” ให้ด้วยความเต็มใจครับ
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 7/9/2562 0:48:33
ผู้แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณค่ะ....มีเวลาจะมาเล่าต่อเรื่อย ๆ ค่ะอย่างน้อยก็ยังมีคุณที่เข้ามาอ่าน ^^
แสดงความคิดเห็นเมื่อ : 7/9/2562 16:13:02