ช่วงสายวัยหนึ่ง ผมเดินเข้ายิมด้วยท่าทีมีความสุขมาก วันนั้นผมจะ workout แผงอกซะหน่อย ก็เลยเดินเข้ายิมด้วยความร่าเริง...ช่วง 10 โมงครึ่ง(เช้า)แบบนั้นผู้คนหายไปกันหมดเพราะเป็นวันธรรมดา กว่าจะคนแน่นอีกทีก็คงเวลาหลังเลิกงานไปแล้ว
ผมเลยกลายเป็นคนที่แทบจะเป็นเจ้าของเครื่องมือในยิมไปเลย เพราะไม่มีใครมาแย่งเล่นหรือผลัดกันเล่น ก็เลยจัดเซ็ทแบบซุปเปอร์เซ็ทให้ตัวเองชนิดเล่นอกสลับกับเล่นหลัง (ใครมีประสบการณ์หรือเป็นเทรนเนอร์มืออาชีพก็อย่าว่าผมนะครับ...ผมเวลาน้อยก็เลยสลับชิ้นกล้ามเนื้อประเภทเล่นกล้ามเนื้ออกระหว่างพักกล้ามอกก็สลับไปเล่นแผ่นหลัง ประมาณนั้นเพื่อประหยัดเวลา)
เล่นไปสามเซ็ทควบ(อกและหลัง)ก็แทบหมดแรงแล้วตอนนั้น มองเวลาผ่านไปชั่วโมงเต็มๆแล้วต้องคอยตัวเองเสมอว่าอย่าเกินชั่วโมงครึ่งเพราะจะกลายเป็นโอเวอร์เทรนด์ไปแทนที่จะดีกลับมีผลเสีย(ซะงั้น) พลันสายตาก็มองเห็นสาวสวยผิวสีแทนคนหนึ่งเดินเข้ามาในยิมด้วยชุดสุดเอ๊กซ์มากๆ และถึงผมไม่ได้มองเธอตรงๆไอ้เจ้ากระจกบานใหญ่รอบยิมมันก็ทำหน้าที่ “ช่วยการมอง”ให้ผมได้เห็นสรีระของเธอแบบกระแทกตาเต็มๆ...
ผมไม่อยากสนใจอะไรมากเพราะรู้ๆอยู่ว่าเวลามา workout นั้นต้อง “โฟกัส” กันที่ท่าแม่นๆ เน้นๆ ไม่งั้นเล่นไปก็ไร้ค่า...และระหว่างที่กำลังนอนหงายบนม้าราบเพื่อเล่น bench press – ดันอกกลางนั่นเอง ความที่แขนมันเริ่มล้า แถมยังอุตริยกน้ำหนักเท่าน้ำหนักร่างกายตัวเองอีก ผลสุดท้ายก็เริ่มดันขึ้นไม่สุดเมื่อยกไปได้แค่ครั้งที่ 6 (จากที่ตั้งใจไว้ 12 ที) ตอนนั้นแม้แต่จะยกแกนบาร์เบลไปแขวนเก็บเหนือหัวก็ลำบากแล้ว และถ้าวางไม่ได้ อีกทั้งไม่มีคนช่วย ไอ้น้ำหนักมหาศาลที่ผมยกทั้งหมดนั้นจะหล่นกระแทกหน้าอกซึ่งมีผลถึงซี่โครงยุบได้ทันตาเห็น
จังหวะมรณะนั้น เหมือนมีมือสวรรค์มาช่วยสอดรับโดยเจ้าของมือรีบมายืนแทบจะค้ำเหนือหัวผม พลางสอดมือรับคานเหล็กที่ผมดันค้างเติ่งไว้ ผมมองช้อนขึ้นไปเห็นหน้าสวยๆของสาวสุดเอ๊กซ์คนเมื่อครู่พยักหน้าให้ผมเป็นสัญญาณให้ดันแกนเหล็กขึ้น สีหน้าของเธอเหยเกไม่แพ้ผมเพราะมันหนักด้วยกันทั้งสองฝ่าย
“ยกให้ครบเซ็ทเถอะค่ะ เหลืออีก 6 ทีไม่ใช่เหรอคะ”เธอว่างั้น ตอนนั้นไม่รู้ว่าเธอรู้ได้ไงว่าผมต้องยกจำนวนนั้น
และทั้งๆที่ผมแทบไม่เหลือแรงแล้ว แต่ได้เธอมาช่วยเซฟให้ก็เท่ากับสามารถประคองกันไปต่อไป ผมขอบคุณเธอ เธอพยักหน้าพลางเกร็งมือช่วยประคองแกนเหล็กให้ผมตอนที่ผมดันขึ้น โอ...แม่เจ้า ตอนนั้นวิวช่างดียิ่งนัก ผมมองช้อนด้านบน(จากการนอนหงายของผม)ก็เห็นหน้าสวยๆของเธอที่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อแบบผู้หญิงมาช่วยผมดันน้ำหนักจนเหงื่อเธอปุดๆเต็มหน้าผาก และเรือนร่าง เหงื่อบางส่วนไหลเป็นทางหยดจากคอเข้าซอกอกอวบๆ และให้ตายเถอะ เวลาที่เธอก้มหน้าดูผมนั้นเหงื่อจากปลายจมูกเธอหยดใส่จมูกผมก่อนจะไหลเข้าปาก... ผมต้องเป่าปากเพื่อส่งกำลังพอจังหวะดูดอากาศก็เลยดูดความชื้นของเธอเข้าไป...
บ้าจริง...ผมกลืนเหงื่อผสมฟีโรโมนของเธอเข้าไปเต็มพิกัด พลางเพลินมองการขยับเขยื้อนของร่างกายท่อนบนที่ชื้นเหงื่อของเธออย่างไม่เข้าใจตัวเองนัก ...และจากการเข้าช่วยเหลือท่าเล่นอกกลางของผมแล้ว เธอยังมาช่วยเซฟท่าเล่นอกบนและอกล่างให้ผมด้วย โดยล้อผมเล่นๆว่าเดี๋ยวเธอจะเล่น Squat ให้ช่วยเซฟเธอด้วยนะ ผมบอกว่า “ได้เลย”
เวลาที่ผู้หญิงเล่น squat (ท่าย่อเข่ายกแกนเหล็กที่บ่าแล้วดันร่างขึ้น)นั้นมันเป็นท่าผู้ชายทั้งปวงไม่สมควรจ้องเธอเหล่านั้นจากเบื้องหลังเลย เพราะมันชวนให้คิดไปไกล โดยเฉพาะสาวคนไหนที่มีสะโพกผายมากๆและ squat ลงระดับ regular หรือ ต่ำกว่านั้นที่เรียกว่า deep squat นั้นจะชวนให้เตลิด
เธอเลือกน้ำหนักค่อนข้างมาก แต่แรกตอนที่ผมช่วยเซฟนั้นก็แค่จับสะโพกเธอแล้วประคองขึ้นตอนที่เธอต้องลุกขึ้น ทำให้เราต้องลุกและย่อพร้อมกัน แต่พอเข้าเซ็ทที่ 3 เธอเลือกเติมน้ำหนักมากขึ้นจนผมตกใจ เรามองหน้ากันแต่เธอพยักหน้าทำนองว่าไหวค่ะ แล้วก็จับแกนแน่นก่อนจะมุดหัวสอดเข้าใต้คานเพื่อเตรียมย่อเข้าลง
เธอย่อตัวพร้อมน้ำหนักค่อนข้างยากลำบาก แต่จังหวะที่จะยกตัวขึ้นยิ่งหนักกว่า ขาเธอสั่นระริก สะโพกดิ้นคล้ายจะยกไม่ขึ้น เนื้อตัวสั่น เหงื่อออกท่วม และเธอพยายามจะยันร่างขึ้นแต่ไม่ขึ้น จนผมต้องตัดสินใจเซฟระดับซุปเปอร์เซฟ โดยพยักหน้ากับเธอว่าเวลานั้นมาถึงแล้วนะ เธอพยักหน้ารับรู้
นั่นเอง...ผมเปลี่ยนจากจับสะโพกเธอไปสอดมือใต้ซอกรักแร้เธอแล้ววางมือคว่ำที่เหนือเนินอก (อย่าหาว่าผมทะลึ่งนะครับ ท่านี้เป็นท่าช่วยคนเล่น squat ในระดับวิกฤติ ถ้าไม่จับท่านี้คนเล่นจะทรุดพร้อมน้ำหนักและอาจทำให้คนเซฟที่แค่จับสะโพกต้องล้มลงไปด้วยกัน โดยมีน้ำหนักมหาศาลทับร่างทั้งสองคน) เท่ากับทำให้เธอสามารถยกsquat ได้โดยมีผมช่วยส่งแรง
ท่านี้...ค่อนข้างแนบชิดครับ หลังเธอแนบอกผม หลังเธอแนบหน้าท้องผม และก้นเธอโดนผมกดด้วยพื้นที่อุ้งเชิงกรานหน้าของผม เราลุกขึ้นด้วยกันและลงย่อเข่าด้วยกันจนครบกระบวนการของเธอ...ปรากฎว่าพอครบเซ็ทเธออายหน้าแดงทั้งๆที่รู้ว่าท่าเซฟนี้ค่อนข้างล่อแหลมแต่ก็ช่วยเธอได้
และไม่รู้ว่าเพราะเธอมั่นใจมากไปหรือเปล่า จึงขอร้องให้ผมช่วยเซฟเธอแบบนั้นอีก 3 เซ็ทรวด...พอผมมองกระจกทีไรเห็นท่าเซฟนั้นด้วยยิ่งใจสั่น ตอนนั้นดูภาพสะท้อนตาเธอจากกระจกเห็นแววพอใจที่หางตาพร้อมยิ้มน้อยๆ ผมไม่รู้ว่าพอใจที่เล่นได้ครบเซ็ทหรือว่าพอใจที่ชายวัยกลางคนอย่างผมมาช่วยเธอกันแน่ เอาเถอะ มันจะเป็นอะไรก็ช่าง สุดท้ายผมก็ช่วยเหลือเธอเท่าที่ทำได้จากนั้นเราต่างก็แยกย้ายกัน
เธอเข้าห้องน้ำ ส่วนผมรับสายโทรศัพท์ที่พอดีโทรเข้ามาเลยนั่งอยู่ในยิม พอเสร็จธุระแล้วจึงออกไปที่ห้องน้ำชาย พอเข้าห้องน้ำได้ยินเสียงฟักบัวซู่ๆ(ห้องอาบน้ำมี 6 ห้อง --- ส่วนห้องส้วมแยกไปอีกโซน) ผมเปลี่ยนชุดเหลือเพียงผ้าเช็ดตัว ตอนนั้นมองกระจกรวมเพื่อเช็คสภาพกล้ามเนื้อซึ่งเป็นปกติของคนเข้ายิมที่ต้องดูว่ามีพัฒนาการแค่ไหน ผมจึงหมุนตัวไปตามเรื่อง จังหวะนั้นได้ยินเสียงคนอาบน้ำปิดฝักบัว แล้วเปิดประตูห้องออกมา
ภาพที่เห็นเบื้องหน้าผมตะลึงเหมือนโดนสะกด เพราะมันคือภาพสาวน้อยคนที่ผมเซฟการยกน้ำหนักให้เธอเมื่อครู่ ตอนนั้นเธอมัดปมผ้าเช็ดตัวหลวมๆ ผมเปียกไปทั่ว และความหมิ่นเหม่ที่โผล่พ้นขอบผ้าเช็ดตัวนั้นอูมฟูมจนทำให้ผมกลืนน้ำลายไม่ลงคอ .....ตอนนั้นสาบานได้ว่าผมพูดจริง ถ้าพูดโกหกให้ร่างผมกลายเป็นหินไปเลย (แฮ่ม...ที่จริงก็โกหกหน่อยๆนะเรื่องกลืนน้ำลาย เพราะโกหกไปแบบนั้นผมเลย “เป็นหิน”บางส่วนไปโดยช่วยไม่ได้ --- ไปเดาเอาเถอะว่าส่วนไหนน่าจะเป็นหิน?)
“เอ้อ .. คะ คะ คุณ ๆๆๆๆ ครับ นี่ห้องน้ำชายนะครับ”ผมได้ยินตัวเองพูดตะกุกตะกัก
เธอไม่ตอบ แต่หรี่ตาให้ พลางถามว่า “มีสบู่มั้ยค่ะ ขอยืมหน่อยค่ะ หนูมีแต่แชมพูเท่านั้น” เวลานั้นผมส่งสบู่เหลวให้เธออย่างว่าง่ายด้วยมือที่สั่นเทา ปากคอแห้งผากไปหมด พอเธอรับไปก็หันกลับไปเพื่อจะวางสบู่เหลวที่แท่นวางสบู่ใต้ฝักบัวแต่ความผิดพลาดบางอย่างทำให้เธอทำสบู่หล่นลงที่พื้นทั้งขวด
สาวน้อยหันหน้ามายิ้มหวานให้ผมๆตะลึงนิ่ง และพอเธอก้มเก็บสบู่เท่านั้น ชายผ้าเช็ดตัวก็ถลกขึ้นสูงตามจังหวะการก้ม และเธอคว้าสบู่ได้เท่านั้น ผมก็เห็นสิ่งที่ลุ้นทันที โอ...แม่เจ้า...โอ...ให้ตายเถอะโรบิ้น...แบ็ทแมนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่เห็นนั้นคือ
“งู.....”ผมเห็นงูของผู้หญิงที่มีงูต่อหน้าต่อตา และภาพนั้นทำให้ผมไม่รู้ตัวว่ารีบผลุนผลันออกจากห้องน้ำนั้นได้รวดเร็วเพียงใด จำได้ลางๆว่าบอกน้องผู้หญิง หรือ ผู้ฉิง คนนั้นไปว่า “พอดีไม่ใช่ทางของพี่น่ะน้อง...พี่ขอโทษนะ” จำได้แค่นั้น
ผมขับรถออกจากที่ยิมนั้นด้วยความรู้สึกสับสน....ทุกวันนี้ย้อนคิดถึงภาพนั้นทีไรก็ยังอดยิ้มให้ตัวเองไม่ได้เสมอ
.........
Pete@(hand)somewhere
หมายเหตุ...ผมยังนับถือน้ำใจน้องคนนั้นอยู่ และมองว่าไม่ว่าจะเป็นเพศสภาพใดเราต่างก็มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน แต่บางที รสนิยมเป็นสิ่งที่บ่งบอกตัวตน...และผมขอเลือกแบบที่เป็นทางของผมดีกว่า...ถ้าผมมีโอกาสเจอเธออีกครั้ง ผมจะบอกเธอแบบนั้น...