Login
-
 view (235 )     comment (0 )     last update : 29/4/2563 11:21:44
Pete
คืนบาปเล่นงานผมอย่างจัง - น้ำลดตอผุด

ราว 6 โมงเย็นวันศุกร์ ผมยืนต่อคิวรอรถไฟฟ้าที่สถานีสยามอย่างอดทน ความที่ผู้คนมากมายต้องการใช้บริการเวลาเดียวกันทำให้เกิดภาพต่อแถวยาวอย่างที่บอก  ผมรอกระทั่งถึงคิวที่ผมได้ขึ้นกระทั่งพาตัวเองเบียดไปอยู่ในรถได้โดยพื้นที่ๆผมยืนอยู่นั้นติดประตูรถด้านในที่ต่อไปมันจะไม่ถูกเปิดเพราะใครจะขึ้นลงต้องไปใช้ประตูฝั่งตรงข้าม และจุดนั้นคือที่มั่นที่ผมยืนเกือบจะเขย่งอยู่เพราะคนในรถเบียดกันแน่นมาก

 

เบื้องหน้าผม...มีสาวอวบสูงราว 165 ซม.ใส่ชุดเดรสสีดำแขนกุด มือข้างหนึ่งกำราวโค้งกันเซ ความสูงของเธอทำให้ไม่ต้องจับห่วง(ซึ่งคนอื่นจับไปหมดแล้ว)มืออีกข้างของเธอจับโทรศัพท์มือถือคุยแช็ตกับเพื่อนโดยใช้หูฟังบลูทูธ  ส่วนผมนั้นยกแขนสูงจับราวทั้งคู่ และผมมักจะทำแบบนั้นเสมอตอนขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อไม่ให้มือไปเปะปะโดนใครจะได้ไม่โดนค่อนขอดว่าทำตัวเป็นไอ้หนุ่มมือปลาหมึกหาเศษหาเลย ดังนั้นสองมือกำราวโค้งตรงนั้นย่อมดีและบริสุทธิ์ใจที่สุด

 

เลยสถานีสยามมาแล้วพอถึงสถานีชิดลมมีคนลงนิดหน่อยแต่มีคนเบียดขึ้นเยอะกว่าทำให้ที่ๆแคบอยู่แล้วยิ่งแออัดขึ้นไปอีก และทำให้สาวชุดดำเบื้องหน้าบดอัดผมจนแนบแน่นยิ่งกว่าที่คิด ตอนแรกผมไม่คิดอะไรแต่เหมือนเธอแนบเข้ามาอีกมากๆชนิดที่ทำให้ผมต้องหนักใจที่สุด สองมือที่กำราวแน่นอยู่แล้วยิ่งบีบแน่นเข้าไปอีกพร้อมกับก้นและแผ่นหลังของเธอที่แนบคล้ายๆกับที่คนทั่วไปชอบเปรียบเทียบการเบียดแน่นๆทำนองนั้นว่า “แทบจะได้เสียเป็นเมียผัว” นั่นแหละ...และสถานการณ์ตอนนั้นมันเป็นยิ่งกว่าที่ว่าเสียอีก...มันแนบมันแน่นเสียยิ่งกว่าผมเคยจินตนาการเอาไว้

 

ใกล้ชิดแทบหลอมละลายแบบนั้น และด้วยส่วนสูงของผมทำให้บางทีเผลอมองไปเพื่อจะเตือนเธอ แต่กลับเห็นล้ำไปข้างหน้าที่มีสองก้อนอวบอูมอยู่ในเสื้อที่แม้ไม่ใช่คอลึกแต่มุมเบียดกันขนาดนั้นทำให้รับรู้ว่าของแท้ๆของเธอนั้นได้รับมรดกแม่มามากกว่าใครๆในตระกูลของเธอ(เดาเอา)...และที่แย่มากที่สุดคือต้นแขนขาวผ่องกับรักแร้ขาวสะอาดตานั้นทำให้ผมต้องกลืนน้ำลายลำบากต่อเนื่อง และเธอคงเห็นภาพความยากลำบากของผมผ่านกระจกประตูด้านตรงข้ามจนเห็นรอยยิ้มของเธอบ่อยๆ

 

รถโยกโยนบ้างแต่ยังน้อยกว่าแผ่นหลังและก้นงอนๆของเธอที่ขยี้แนบผม ตอนนั้นสาบานได้ว่าผมพยายาม “ถอยจนหมดทางถอย”แล้วเพราะด้านหลังผมคือประตูปิดตายของรถไฟฟ้า แต่เธอกับรุกผมหนักจนผมกลืนน้ำลายติดๆขัดๆคล้ายคนสำลักน้ำ...เธอหัวเราะเบาๆกับปลายสายที่ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ดูเธอมีความสุขมาก บางครั้งมองสบตาผมแล้วยิ้มๆให้...ผมได้แต่พึมพำในใจว่าถ้าไม่เป็นเพราะติดนัดสำคัญที่ต้องคุยทางไกลกับเพื่อนที่ต่างประเทศในอีกชั่วโมงข้างหน้าแล้วผมอาจจะมีทางเลือกมากกว่านั้น

 

เธอวาดขาสอดมาเบื้องหลังนิดหน่อยโดยวางมาระหว่างเท้าสองข้างของผม ตอนนั้นภูเขาไฟในตัวผมมีอาการเครียดแทบบ้า  เป็นอีกครั้งในหลายๆครั้งที่ผมกลืนน้ำลายไม่ลงคอ เหงื่อกาฬแตกทั้งๆที่แอร์เย็นฉ่ำ ...กลิ่นน้ำหอมจากเรือนกายเธอที่อยู่ห่างแค่คืนทำให้ผมตกอยู่ในภวังค์ ต้นแขนขาวอวบนั้นชวนให้วาบหวิว และภูเขาไฟลูกแฝดของเธอทำให้ผมเหมือนถูกจองจำอยู่ในความฝันบรรเจิด  และตอนนั้นผมแทบจะหมดความอดทนแล้ว

 

“สถานีเอกมัย....”แว่วๆว่าเสียงเตือนจากระบบรถไฟฟ้าบอกแบบนั้น มันเหมือนเสียงระฆังช่วยชีวิตที่เตือนสติให้ผมรู้ว่าเธอปล่อยผมเป็นอิสระและลงจากรถไฟฟ้าไปเมื่อถึงสถานีนั้น...ผมได้แต่คิดว่าเธอคงไปวัดธาตุทองเพื่อไปร่วมพิธีทางศาสนาหรือพิธีศพเพราะได้ยินเธอพูดเบาๆกับปลายสายว่าถึงวัดธาตุทองแล้ว  ก่อนเธอออกประตูรถ เธอหันมายิ้มให้ผมนิดหนึ่ง ผมเห็นหน้าเธอชัดเจนว่าเป็นสาวใหญ่วัย 30 ต้นๆ เธอสวย น่ารัก และขาวมาก เมื่อเธอลงจากรถไปแล้วเธอยกมือขึ้นเสยผมนิดหนึ่งผมเห็นรักแร้ขาวสะอาดของเธอชัดเจน..เธอเซ็กซี่มาก

 

ผมต้องกล้ำกลืนความรู้สึกหลายอย่างด้วยความยากลำบาก...ผมลงรถไฟฟ้าในอีก 4-5 สถานีถัดไป ยอมรับว่า “ควันหลง”จากการเบียดกันนั้นทำให้ผมยังระทึกอยู่ และต้องหาทางดับความระทึกนั้นโดยด่วน....เวรกรรมจริงๆที่ฝนตกไม่ลืมหูลืมตา ผมแวะข้างทางซื้อชานมไข่มุกมาแก้วหนึ่งพร้อมหิ้วอยู่ในถุง...ผมตัดสินใจไม่เรียกแท็กซี่จากตรงนั้นเพื่อเข้าบ้าน แต่เดินฝ่าสายฝนกลับบ้านที่อยู่ห่างออกไปราว 1 กม.ทันที

 

เพื่อให้ “ควันหลงจากการเบียดกันคลายตัว” ผมไม่สนใจดื่มชานมไข่มุกแก้วนั้น แต่เอามันมาโปะตรงพิกัดอันตรายของผมโดยหวังว่าความเย็นจากน้ำแข็งจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น และสายฝนที่กระหน่ำจนผมเปียกทั้งตัวนั้นทำให้ไม่เป็นข้อพิรุธใดๆหากใครจะมองเห็นชายหนุ่มที่เปียกฝนทั้งตัวจะเปียกเพิ่มจากชานมไข่มุกที่มีน้ำแข็งเย็นฉ่ำภายในถ้วย....ผมจ้ำอ้าวๆจนถึงบ้านจากนั้นก็เปลี่ยนชุดแล้วลงอ่างอาบน้ำทันที

 

ค่อยยังชั่วขึ้นมากหลังจากนั้น....แต่ภาพการเบียดของสาวนิรนามคนนั้นทำให้ผมได้เห็นสัจธรรมบางอย่างในอ่างอาบน้ำนั้น...นั่นคือ...แม้ผมจะปล่อยน้ำออกจากอ่างจนต่ำกว่าระดับสะโพกแล้วก็ตาม แต่วาทะกรรมหรืออุปมาอุปมัยที่ว่า “น้ำลด-ตอผุด”ยังใช้ได้ดีกับสภาพของผมในอ่างตอนนั้น

 

เฮ้อ....เธอเป็นใครไม่รู้...แต่เธอทำให้ตอของผมผุดเสมอเมื่อจินตนาการเห็นเธอบ่อยๆ

 

pete@(hand)somewhere

ความคิดเห็น
--- No Comment ---