ทุกครั้งที่มองไปที่ต้นกาแฟในบริเวณร้านกาแฟเล็กๆที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนั้น พิมรู้สึกเหมือน “เขา” ยังอยู่ใกล้ๆเสมอ
หลายปีก่อน...เธอเปลี่ยนสภาพส่วนหนึ่งของท้องทุ่งปลูกข้าวให้กลายเป็นร้านกาแฟที่เคยเป็น “ฝัน” ของเธอ และในที่สุดเธอก็ทำให้มันกลายเป็นร้านกาแฟกลางทุ่งได้สำเร็จ โดยมีจุดขายเป็นท้องทุ่งธรรมชาติ ที่มีร้านกาแฟแบบบ้านๆเอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวหรือคนผ่านทางที่อยากได้บรรยากาศของทุ่งข้าว
ลมทุ่งพัดแรง บ่อยครั้งที่หอบเอากลิ่นฟางข้าว ระคนกลิ่นดินทุ่งที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษที่คนเมืองไม่มีวันเข้าใจเข้าไปที่ร้านกาแฟเล็กๆนั้น ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบนั่งที่โซนโล่งๆมีเพียงหลังคาคลุมง่ายๆ คงมีบางส่วนที่กลัวไอร้อนกลางทุ่งจึงเลี่ยงไปนั่งที่โซนติดแอร์
“เชน”...คนรักของพิมเป็นหนุ่มใหญ่จากเมืองกรุงที่ไม่คิดว่าจะอยู่ที่ไหนได้นานนอกจากวุ่นวายอยู่แต่ในเมืองหลวง เขาไม่เชื่อว่าจะนั่งทำงานที่เขารักในพื้นที่ไกลปืนเที่ยงเช่นที่ทุ่งอันเป็นอาณาจักรน้อยๆของพิมได้นานเท่าไหร่....
หลายปีก่อน...โรคระบาดร้ายแรงรุกรานไปทุกที่ทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในเมืองหลวงที่ได้ชื่อว่ามีระบบการดูแลสารพัดอย่างที่ดีที่สุด แต่ก็นั่นแหละ เมื่อโรคร้ายไม่มีทีท่าว่าจะลดราวาศอกลง ตรงข้ามกับทำให้หลายชีวิตต้องดับสูญภายใต้เงามรณะนั้น
“มาอยู่กับพิมสักระยะมั้ยคะ...มันอาจจะไม่สะดวกเหมือนเมืองกรุง แต่ที่นี่พี่จะพบสิ่งที่พี่ไม่เคยได้จากที่นั่น” สาวสวยพูดเรียบๆแต่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นบางอย่าง
เชนไม่ให้คำตอบกับคนรัก...เขามีภารกิจหลายอย่างที่ต้องสะสางให้สำเร็จ แต่นั่นอาจเป็นเพียงข้ออ้าง แท้ที่จริงแล้วเขารู้อยู่แก่ใจว่าที่ๆเขาอยู่นั้นไม่ปลอดภัยอย่างที่เขาเคยคิดเสียแล้ว และโดยไม่บอกกล่าวอะไรทั้งสิ้น เขาออกเดินทางเงียบๆโดยมีเส้นทางของหัวใจเป็นตัวกำหนด
เช้าวันรุ่งขึ้น...พิมใจลอยไปไกลแสนไกล...ควันกาแฟลอยนิ่งเบื้องหน้าขณะร่างสวยยืนชงกาแฟให้ตัวเอง มืออีกข้างแตะที่ริมฝีปากคล้ายครุ่นคิดขณะที่อีกมือชงกาแฟไปเรื่อยๆเหมือนคนใจลอย....เธอคิดถึงชายคนรักที่ได้ชื่อว่า “ปากแข็ง”ที่สุดคนหนึ่งในโลก เขาไม่ตอบเมล ไม่สื่อสารใดๆกับเธอในช่วงคืนที่ผ่านมาเหมือนเคย
น้ำตาเอ่อท้น เมื่อคิดว่า เขาอาจไม่ใยดีเธอเหมือนที่เขาเคยเงียบไปจากชีวิตของเธอในอดีต....
“คนใจร้าย” เธอคิดในใจซ้ำๆ
ลมทุ่งพัดแรง ม้วนเอาฝุ่นลอยขึ้นเหนือดินเป็นวงกลม ก่อนจะวนเป็นเกลียวเข้าไปทีร้านตรงใกล้ชายคาที่พิมยืนอยู่ แม้มันพัดเฉียดหลังคาไปแต่ทำให้สาวสวยยกมือปิดบังสายตาเพราะกลัวฝุ่นเข้าตาทันที เมื่อถอยหลบปลายลมนั้นเผลอก้าวถอยหลังไม่ระวังจนร่างเซ
ก่อนจะล้ม...แข็งใหญ่แข็งแรงรวบร่างเธอไว้ แม้ยังไม่ลืมตาขึ้นมาเธอกลับรู้สึกไม่พอใจที่มีใครก็ไม่รู้มารวบร่างไว้ พอหันกลับไปเผชิญหน้ากะว่าจะตบหน้าสักเพี้ยะ....เพราะอุตส่าห์ถนอมตัวไว้ให้ชายที่เธอรักเพียงผู้เดียวนั้นเธอก็ต้องเผชิญกับเรื่องไม่คาดคิด
“ไอ้...บ้า..”มือเงื้อสูง ปากกะจะด่าต่อ.. แต่แล้วก็อ่อนระทวยไปทันที
เธอสิ้นเรี่ยวแรง...น้ำตาเอ่อท้นเมื่อครู่ไหลท่วมหน้า ปากคอสั่นเมื่อหลุดคำว่า “พี่....” ต่อด้วย “เชน” ช้าๆคล้ายไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นเบื้องหน้าที่อยู่แค่ระยะกอดกันเท่านั้น
เขามาเงียบๆ มาถึงก็ขโมยกอด แต่ก็มาได้จังหวะพอดีจนพอรับร่างเธอไม่ให้ล้มลงไปกองกับพื้น
หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก เธอสะอื้นอยู่กับอกเขาเนิ่นนานโดยไม่สนใจใครต่อใครในร้านกาแฟนั้น เธอไม่คิดว่าเขาจะบุกมาหาเธอถึงที่ร้านได้แบบนั้น เมื่อลมทุ่งพัดแรงๆเข้ามาที่ร้านอีกทีทั้งสองจึงคลายกอดกัน
....................
นั่นเป็นภาพจำเมื่อหลายปีก่อนที่เชนโผล่มาเซอร์ไพร้ส์สาวคนรักโดยไม่บอกกล่าว...เขาขับรถคู่ใจมาช่วงกลางคืน โดยทิ้งหลายสิ่งไว้เบื้องหลัง มีเพียงของที่จำเป็น และ “ต้นกล้ากาแฟ” ติดท้ายรถมาด้วยเท่านั้น
ทั้งสองช่วยกันปลูกต้นกาแฟไว้ที่มุมสวยๆไม่ห่างจากร้านเท่าไหร่นัก
“ดูแลมันให้ดีนะพิม มันก็เหมือนพี่นั่นละ อีกหน่อยมันจะให้เม็ดกาแฟสายพันธุ์ดี”เชนว่าแบบนั้นขณะที่ดูหน้าขมุกขมอมของแฟนสาวที่แทบไม่ต่างจากหน้าของเขาจนต่างฝ่ายต่างหัวเราะให้กัน
หลายวัน กลายเป็นหลายเดือน และกลายเป็นปีแห่งความทรงจำ...เช่นใช้มุมหนึ่งของร้านกาแฟเป็นจุดที่เขาทำงาน บางทีก็เขียนเรื่องต่างๆ บางทีก็ให้คำปรึกษากับต้นสังกัดที่อยู่ห่างไกล
ช่วงเวลาแสนสุขที่ร้านกาแฟกลางทุ่งนั้น...เชนช่วยพิมตกแต่งร้าน โดยนำ บทพูดหวานๆจากนิยายรักโรแมนติก ทั้งจาก ต่างประเทศ และของไทย ตัดต่อ ตกแต่ง เป็นถ้อยคำเก๋ๆติดไปอย่างเหมาะสมในร้าน....ของตกแต่งเพิ่มเติมคือหนังสือหลายเล่มที่เชนเขียนเอาไว้นานมาแล้ว ผสมผสานกับหนังสืออีกนับไม่ถ้วนที่พิมเอามาวางให้อ่านในร้าน ตกลงร้านกาแฟนั้นกลายเป็นร้านกาแฟที่มีแคปชั่นเก๋ๆจากหนังสือรักเป็นหลักมากมาย ปนเปไปกับหนังสือวิชาการ หรือหนังสือผจญภัย และอีกหลายแนวที่เชนทั้งเขียน ทั้งสะสม รวมๆกันไป
...........
โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน..ต้นกาแฟที่ได้ชื่อว่า “แสนรัก” นั้นเติบโตขึ้น และมีกลุ่มพวกพ้องของมันที่พิมกับเชนปลูกขึ้นมาอีกไม่น้อย....แต่ต้นที่พิมรักมากที่สุดคือเจ้าแสนรักที่ทั้งคู่ลงมือปลูกด้วยกันจนหน้าตามอมแมนในช่วงแรกๆ ตอนนี้มันให้ผลผลิตที่มีรสชาติดี และกลายเป็นตัวชูโรงสำคัญในร้านกาแฟของพิม
“พี่ต้องไปทำงานที่ต่างประเทศหลายปี....”เชนพูดสั้นๆแค่นั้นในคืนที่พิมสำลักความสุข...เธอร้องไห้กระซิกๆ กล้ำกลืนความรู้สึกหลายอย่างที่ทั้งอยากบอก อยากห้าม และรั้งเขาไว้ให้อยู่กับเธอที่ไร่แสนอบอุ่นตลอดไป
เช้าวันที่เชนขับรถออกไปจากไร่แสนรักนั้น พิมเก็บภาพทุกช็อตเอาไว้ในหัวใจ เธอไม่รู้ว่าไปหลายปีของเขามันเป็นเวลากี่ปีกันแน่ แต่...รักย่อมต้องเสียสละ และยอมอดทนเพื่อเวลาแห่งความหอมหวานเสมอ เธอแทบหมดเรี่ยวแรงจะบริหารร้านกาแฟนั้นต่อไป
ช่วงบ่าย....เธอยังทำใจไม่ได้กับการจากกันนาน...เธอเดินไปที่ต้นกาแฟแสนรักนั้น...ยืนมองมันนิ่งๆเหมือนเป็นตัวแทนแห่งความรักของเชน ตอนนั้นคล้ายหายไปจากกาลเวลา เธอไม่อยากรู้ ไม่อยากคิดอะไรทั้งสิ้น มีความรู้สึกเศร้าเหมือนเสียของรัก
เธอเหนื่อย สูญเสีย และรู้สึกเหมือนจะเป็นลม มือที่จับต้นกาแฟนั้นอ่อนแรง
พลันมีแขนแข็งแรงโอบร่างเธอไว้ไม่ให้ร่วงหล่น เธอลืมตามอง และอยากจะต่อว่าใครที่มาถือวิสาสะแตะต้องเนื้อตัวเธอ
พอหันกลับไปประจันหน้าคนฉวยโอกาสนั้น ก็อดร้องไห้อีกไม่ได้
“คนบ้า.....”เธอร้องลั่นพลางทุบอกชายหนุ่มจอมหลอกลวง
“แกล้งเขาทำไม...ไหนบอกจะไปต่างประเทศ แล้วทำไมมาอยู่ตรงนี้”เธอถามรัว น้ำตาไหลพราก
“ลองใจไง...ไม่ง้นจะรู้เหรอว่าจะดูแลต้นกาแฟนี้หรือเปล่า?”เชนจอมแกล้งพูดบ้าง
“.................................”สาวสวยพูดต่อว่าเป็นภาษาถิ่นยาวเหยียด
ชายหนุ่มบดปากจูบตัดตอนการต่อว่าของหญิงสาวจนลืมหายใจกันไปนาน
“พี่บ้า....ทำไมไม่ถามว่าเขาว่าพี่ว่าอะไรบ้าง” สาวสงสัย
“ขืนต่อว่าพี่อีกจะจูบให้เข็ดอย่างตอนนี้อีก” พูดจบก็อุ้มเจ้าของร้านสาวเข้าไปที่ห้องพักหลังร้านกาแฟ
“พี่...กลางวันแสกๆเลยนะ”
“แล้วไม่ไปแล้วเหรอเมืองนอกน่ะ”
“หลอกน้องทำไม....”
“ว้าย....โธ่....หมดกัน”เธอพูดได้ไม่กี่คำ จากนั้นก็ครางล้วนๆ
ลมทุ่งพัดแรง บางคราวพัดกรรโชกหนักๆ ต้นกาแฟแสนรักโยกโยนไปมา คงพอๆกับเชนและพิมที่ไม่รับรู้เรื่องราวของโลกภายนอกสักพัก ส่วนร้านกาแฟนั้นก็ปล่อยให้ลูกจ้างทำงานไปก่อน เพราะลูกน้องทุกคนรู้ดีว่าไม่ควรยุ่งเรื่องของเจ้านาย
จบ
Pete@(hand)somewhere